ฟิทช์ ประกาศคงอันดับเครดิตของบริษัทเงินทุนธนชาติ

ศุกร์ ๓๐ กรกฎาคม ๒๐๐๔ ๐๙:๑๐
กรุงเทพฯ--30 ก.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย)
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ระยะยาวและระยะสั้นของบริษัทเงินทุนธนชาติจำกัด (มหาชน) (ธนชาติ) ที่ระดับ ‘A-(tha)’ (A ลบ (tha)) และ ‘F2(tha)’ ตามลำดับ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ อันดับเครดิตสะท้อนถึงความแข็งแกร่งทางด้านเงินทุนของบริษัท การปรับตัวที่ดีขึ้นของผลประกอบการ การเน้นการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และการขยายฐานการดำเนินธุรกิจทางการเงินของบริษัทให้กว้างมากขึ้น อย่างไรก็ตามความเสี่ยงที่สำคัญต่อผลการดำเนินงานของธนชาติ ได้แก่หนี้ที่ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้แล้วที่ยังคงอยู่ในระดับสูง อัตราการเติบโตของสินเชื่อที่สูง และการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยซึ่งอาจจะทำให้คุณภาพของสินทรัพย์และการทำกำไรของบริษัทถดถอยลงได้ในสองปีข้างหน้า นอกจากนั้น การเปลี่ยนสภาพเป็น บริษัทโฮลดิ้ง อาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโครงสร้างเงินกองทุนและสัดส่วนหนี้สินของบริษัทในอนาคต
ธนชาติมีแผนการที่จะรวมธุรกิจธนาคารและเงินทุนไว้ด้วยกันในธนาคารธนชาต ซึ่งเป็นบริษัทย่อยภายในสิ้นปี 2547 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากทางการ แผนการรวมธุรกิจธนาคารและเงินทุนไว้ด้วยกันเกิดขึ้นหลังจากที่มีการประกาศแผนแม่บทพัฒนาสถาบันการเงินซึ่งสนับสนุนการรวมกิจการภายในภาคธุรกิจการเงิน โดยในระยะแรกธนชาติมีแผนที่จะโอนสินทรัพย์และหนี้สินบางส่วนยกเว้นเงินลงทุน ยอดคงค้างลูกหนี้เช่าซื้อ และหุ้นกู้ ไปยังธนาคารธนชาต การรวมธุรกิจธนาคารและเงินทุนจะสร้างองค์กรที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และมีความแข็งแกร่งทางการเงินที่ดีขึ้นในระยะปานกลาง
ธนชาติมีกำไรสุทธิในปี 2546 จำนวน 2.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1.7 พันล้านบาทในปีก่อนหน้า การเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิสะท้อนถึงอัตราการเจริญเติบโตของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่สูง การปรับตัวเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียม และกำไรจากการขายเงินลงทุนในตราสารหนี้ ผลการดำเนินงานของธนชาติในไตรมาสแรกของปี 2547 ยังคงแข็งแกร่ง โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 30% เพิ่มเป็น 589.7 ล้านบาท ซึ่งก็ยังเป็นผลสืบเนื่องมาจากอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์
สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มีสัดส่วนอยู่ประมาณ 62% ของยอดการปล่อยสินเชื่อทั้งหมดของธนชาติ ระดับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ดีขึ้น และการปล่อยสินเชื่อเพื่อการบริโภคที่เปิดกว้างขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เพิ่มสูงขึ้นในช่วงสามปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามอัตราการเจริญเติบโตอาจจะมีแนวโน้มลดลงบ้างในปี 2547/2548 และเนื่องจากสินเชื่อเช่าซื้อให้ผลตอบแทนกับบริษัทในอัตราที่คงที่ การลดลงของต้นทุนเงินกู้ยืมในขณะที่อัตราการเติบโตของสินเชื่อที่สูงช่วยทำให้อัตราผลกำไรส่วนต่างดอกเบี้ยของธนชาติเพิ่มสูงขึ้น เป็น 3 % ในปี 2546 จาก 2.6 % ในปี 2545 โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงอัตราการเจริญเติบโตของสินเชื่อที่สูง อย่างไรก็ตามการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยและปัญหาคุณภาพสินทรัพย์ที่ยังคงมีอยู่อาจจะมีผลกระทบต่ออัตราการทำกำไรและอัตราการเติบโตของรายได้และกำไรของบริษัทในระยะปานกลาง แม้ว่าความเสี่ยงนี้จะถูกลดทอนลงเนื่องจากอายุเฉลี่ยของสินทรัพย์ของบริษัทอยู่ที่ประมาณสองปี
ในขณะที่ระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนชาติลดลงมาสู่ระดับ 9.2 พันล้านบาท หรือ 8% ของยอดสินเชื่อทั้งหมด ณ สิ้นเดือน มีนาคม 2547 จาก 16.4 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 2543 มีหนี้จำนวนมากที่ได้ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ และอาจจะกลับไปเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้โดยเฉพาะเมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น ระดับการกันสำรองหนี้สูญของธนชาติเพิ่มขึ้นเป็น 75% ของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ในขณะที่หนี้ที่ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ทำให้บริษัทมีความเสี่ยงที่จะต้องกันสำรองเพิ่มขึ้นอีก นอกจากนั้นกลยุทธ์การเติบโตในเชิงรุกในช่วง สามปีที่ผ่านมาก่อยังให้เกิดความกังวลในเรื่องที่ปัญหาคุณภาพสินทรัพย์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีก
ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2547 ธนชาติมีเงินกองทุนขั้นที่หนึ่งอยู่ที่ 8.3 พันล้านบาท หรือ 8.4 % ของสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งค่อนข้างแข็งแกร่ง และถ้ามองในภาพรวมของบริษัททั้งกลุ่มแล้ว ธนชาติมีเงินทุนที่แข็งแกร่งขึ้นมาก เพราะเงินกองทุนขั้นที่หนึ่งส่วนหนึ่งได้ถูกกันไปเพื่อลงทุนในทุนของธนาคารธนชาต เงินกองทุนขั้นที่หนึ่งของธนชาติน่าจะเพิ่มไปสู่ระดับประมาณ 13 % หลังจากที่มีการโอนสินทรัพย์บางส่วนไปที่ธนาคารธนชาตแล้ว
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตระดับเพื่อการลงทุน หรือมีอันดับเครดิตอยู่ในระดับต่ำแม้จะอยู่ในระดับเพื่อการลงทุน อันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศจะอยู่ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นถูกออกแบบมาเพื่อนักลงทุนภายในประเทศในแต่ละประเทศนั้นๆ และมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับแต่ละประเทศ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นไม่สามารถนำไปใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
สำหรับรายงานของธนชาตินั้นหาได้จาก www.fitchresearch.com
ติดต่อ
ชัยพัฒน์ ไพฑูรย์, Vincent Milton, กรุงเทพฯ +662 655 4762/4759
David Marshall, ฮ่องกง +852 2973 6293--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version