กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--บลจ.ธนชาติ
บลจ.ธนชาติ เผยผลการเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดธนชาติทวีรายได้ 9 (NID 9) สามารถระดมเม็ดเงินได้กว่า 360 ล้านบาท เกินจากที่คาดการณ์ไว้ค่อนข้างมาก เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าตราสารหนี้ระยะสั้น ยังให้ผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก
นายกำพล อัศวกุลชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาติ จำกัด (บลจ.ธนชาติ) เปิดเผยว่า หลังจากปิดช่วงเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด ธนชาติทวีรายได้ 9 (NID 9) เมื่อ 30 กรกฎาคม ที่ผ่านมา กองทุนดังกล่าวสามารถระดมเม็ดเงินได้กว่า 360 ล้านบาท เกินจากที่คาดการณ์ไว้ค่อนข้างมาก ทั้งนี้เนื่องจากนักลงทุนยังเชื่อว่าตราสารหนี้ระยะสั้น ยังให้ผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ในช่วงที่รอการปรับตัวของดอกเบี้ย ซึ่งมีแนวโน้มจะขยับสูงขึ้นอย่างช้า ๆ ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้านี้
นอกจากนี้ กองทุนเปิดธนชาติทวีรายได้ 9 (NID9) จะเน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพ เครดิตเรทติ้ง BBB+ ขึ้นไป โดยมีอายุประมาณ 2 ปี ใกล้เคียงกับกองทุน ซึ่งจะช่วยให้กองทุนไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของราคาตราสารหนี้ที่เกิดจากการปรับตัวสูงขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่นักลงทุนเชื่อมั่นว่า ตราสารหนี้ระยะสั้นสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า
สำหรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย นายกำพล ได้ให้ความเห็นว่า จากผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน วันที่ 21 กรกฎาคม 2547 มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืน พันธบัตรระยะ 14 วัน ในระดับร้อยละ 1.25 ต่อปี ไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากแนวโน้มที่ตลาด แรงงานจะตึงตัวขึ้นและเศรษฐกิจที่จะขยายตัวต่อเนื่อง อาจเป็นแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน และปัจจัยภายในประเทศ เช่น สถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ และปัญหาไข้หวัดนกที่หวนกลับมาอีกครั้ง ซึ่งมีผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุน รวมทั้งปัจจัยภายนอก เช่น แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นในต่างประเทศ ราคาน้ำมันที่คงอยู่ในระดับสูง อาจกระทบต่อความไม่แน่นอนในการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ตลอดจน การประกาศทิศทางดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา ดังนั้น นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิดต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับช่วงปลายปีนี้ คาดว่าทิศทางอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะมีความชัดเจนมากขึ้นว่าจะปรับตัวขึ้นอย่างไร--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--