กรุงเทพฯ--24 ส.ค.--บีโอไอ
บีโอไอนำคณะนักธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐกว่า 30 คน ไปศึกษาลู่ทางการค้า-การลงทุน ณ กรุงพนมเปญ และจังหวัดเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา เพื่อขยายลู่ทางการค้าการลงทุนของไทย ระหว่างวันที่ 26-28 ส.ค. นี้
นายสมพงษ์ วนาภา เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 26-28 สิงหาคม 2547 นี้ บีโอไอจะนำคณะนักธุรกิจไทยและหน่วยงานภาครัฐกว่า 30 คน เดินทางไปศึกษาลู่ทางการลงทุน ณ กรุงพนมเปญ และจังหวัดเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา เพื่อส่งเสริมให้นักธุรกิจไทยเข้าไปลงทุนในกัมพูชาให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นการสร้างโอกาสให้นักลงทุนไทยที่จะร่วมเดินทางไปได้พบปะหารือและเจรจาทางธุรกิจกับนักลงทุนจากกัมพูชาด้วย
สำหรับการเดินทางไปส่งเสริมการลงทุนในกัมพูชาครั้งนี้ นอกจากจะได้เยี่ยมคารระ นายซุย เซม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายจอม ประสิทธิ์ รองประธาน CDC (Vice Chairman, Council for the Development of Cambodia) และรองประธาน CIB (Cambodia Investment Board) นายจาบ นารีวุฒิ ผู้ว่าราชการจังหวัดเสียมเรียบ เอกอัครราชทูตไทย และประธานสภาหอการค้ากัมพูชา ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้หารือถึงแนวทางและนโยบายการส่งเสริมการลงทุน ตลอดจนรับทราบถึงปัญหาและอุปสรรคที่มีต่อการลงทุนของนักลงทุนไทยในประเทศกัมพูชา
นอกจากนี้ยังมีการจัดสัมมนา เกี่ยวกับ โอกาสและลู่ทางการลงทุนในกัมพูชา รวมทั้งลู่ทางการลงทุนในธุรกิจประเภทบริการ ในจังหวัดเสียมเรียบ โดยมีเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) Mr. Sorn Sokna ประธานสภาหอการค้ากัมพูชา มาร่วมบรรยายในการสัมมนาครั้งนี้ด้วย และยังเชิญ Mr. Bretton G. Sciarroni ประธาน Internationnal Business Club มาเล่าถึงประสบการณ์ในการทำธุรกิจในกัมพูชา และคณะยังมีโอกาสเข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตอาหารสัตว์ ของบริษัท ซีพี อีกด้วย
ประเทศ กัมพูชาเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการลงทุนสูง เนื่องจากมีความอุดมสมบูรณ์ในทรัพยากรธรรมชาติประเภทต่างๆ อาทิ การประมง การทำเหมืองแร่ การทำอุตสาหกรรมแปรรูปใช้เพื่อการส่งออก ซึ่งปัจจุบันกัมพูชามีพื้นที่ป่าไม้ประมาณร้อยละ 70 ของพื้นที่ทั้งหมด การลงทุนด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม เนื่องจากกัมพูชาเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ มีโบราณสถาน โบราณวัตถุ และสถานที่สำคัญๆ ที่น่าศึกษาเรียนรู้ และธุรกิจด้านก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง เพื่อใช้ในการดำเนินการบูรณะและก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานภายในประเทศ และรองรับการขยายตัวด้านการค้าและการลงทุนในอนาคต
ทั้งนี้อุตสาหกรรมเป้าหมายที่ไทยมีศักยภาพเข้าไปลงทุนในประเทศกัมพูชาได้แก่ อุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ อุตสาหกรรมเกษตร อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมอุปโภคบริโภคเป็นต้น
สำหรับการลงทุนจากต่างชาติในกัมพูชา นักลงทุนไทยถือเป็นนักลงทุนจากต่างประเทศอันดับที่ 8 มีมูลค่าการลงทุนประมาณ177 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนใหญ่เป็นกิจการสาขาโทรคมนาคม โรงแรม การท่องเที่ยว และธุรกิจด้านบริการต่าง ๆ ส่วนประเทศที่มีการลงทุนเป็นอันดับอันที่1 ถึง 5 ได้แก่ มาเลเซีย ไต้หวัน จีน ฮ่องกง และสิงคโปร์
ด้านการค้าไทยกับกัมพูชา สินค้าของไทยที่ส่งออกไปกัมพูชา ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ปูนซีเมนต์ เครื่องดื่ม เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ ที่นำเข้าจากกัมพูชา ได้แก่ ไม้แปรรูปประเภทต่างๆ ผลิตภัณฑ์ไม้ ปลาและปลาสำเร็จรูป หนังดิบ หนังฟอก และเศษเหล็ก--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--