กรุงเทพฯ--25 ส.ค.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์
ผลสำรวจประจำปีของเอไอเอชี้ คนไทยหนึ่งในสี่ต้องประสบภาวะวิกฤติทางการเงินภายในสามเดือนหากต้องออกจากงาน ถ้าไม่มีหลักประกันทางการเงินรองรับ
บริษัท อเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด (เอไอเอ) ได้จัดให้มีการสำรวจประจำปีเกี่ยวกับทัศนคติในเรื่องการคุ้มครองความเสี่ยงส่วนบุคคล และแนวโน้มพฤติกรรมที่เพิ่มความเสี่ยงด้านสุขภาพในภูมิภาค เอเซีย ภายใต้โครงการชื่อ "ไลฟ์-แมทเทอร์ส (Life Matters)" โดยบริษัทผู้ให้บริการข้อมูลทางการตลาด ทีเอ็นเอส (TNS) ทำการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กลุ่มตัวอย่างจำนวน 500 คนในแต่ละประเทศ ได้แก่ ฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย
ผลการสำรวจพบว่า คนไทยจำนวนหนึ่งในสี่ ที่ไม่ได้ทำประกันอุบัติเหตุหรือสุขภาพ คาดว่าตนเองจะต้องประสบภาวะวิกฤติทางการเงินภายในระยะเวลาเพียงสามเดือน หากต้องออกจากงานโดยกระทันหันเนื่องจากความเจ็บป่วย หรือประสบอุบัติเหตุถึงขั้นทุพพลภาพ
ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 24 ยอมรับว่า หากตนไม่ได้ทำประกันอุบัติเหตุหรือประกันสุขภาพ ส่วนบุคคลอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว จำเป็นต้องอาศัยรายได้จากสมาชิกในครอบครัว หรือ จากเงินฝากออมทรัพย์เพียงอย่างเดียว เพื่อใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันและเป็นค่ารักษาพยาบาล ซึ่งเงินดังกล่าวจะหมดไปในเวลาเพียง สามเดือนหรือเร็วกว่านั้น อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 55 ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าสามารถเลี้ยงตัวได้ด้วยเงินสะสมที่มีอยู่หากต้องออกจากงานเป็นระยะเวลาประมาณหนึ่งปีก่อนประสบปัญหาทางการเงินขั้นรุนแรง
ผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่าร้อยละ 50 ต้องพึ่งพาครอบครัวเป็นภาระเลี้ยงดูหากต้องออกจากงาน เนื่องจากทุพพลภาพ และอีกร้อยละ 40 ต้องอาศัยเงินเก็บสะสมไว้ในการดำรงชีพเพียงอย่างเดียว โดยมีเงินช่วยเหลือจากการประกันสังคมจุนเจือเพียงบางส่วน
นายสุทธิ รจิตรังสรรค์ รองประธานอาวุโสฝ่ายบริหาร เอไอเอ (สาขาประเทศไทย) กล่าวว่า "ผลการสำรวจชี้ชัดว่ายังมีคนอีกจำนวนมากที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงทางด้านการเงินอย่างไม่คาดคิดเพราะขาดการวางแผนด้านการทำประกันที่มารองรับในกรณีฉุกเฉิน เนื่องจากไม่ตระหนักถึงผลกระทบทางด้านการเงินที่จะเกิดขึ้นกับตนเองและครอบครัว หากต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลจำนวนมาก รวมทั้งค่าใช้จ่ายในระยะพักฟื้น หรืออาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อการดูแลผู้ทุพพลภาพในระยะยาวอีกด้วย"
"ตัวอย่างเช่น กรณีเจ็บป่วยด้วยโรคหัวใจขาดเลือด แล้วต้องรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจเพื่อให้หัวใจทำงานได้เป็นปกติ ค่าผ่าตัดอย่างเดียวไม่รวมค่าอุปกรณ์และค่ารักษาพยาบาลระยะยาวในโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำในกรุงเทพมหานคร โดยเฉลี่ยแล้วตกครั้งประมาณ 500,000 บาท นับเป็นค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงสำหรับบุคคลทั่วไป ซึ่งแสดงให้เห็นถึงปัญหาทางการเงินขั้นรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้ หากคนนั้นไม่มีการวางแผนทางการเงินอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องออกจากงานอย่างกระทันหันและไม่สามารถหาเลี้ยงชีพได้" นายสุทธิอธิบาย
"ผลของการสำรวจนี้จึงชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการทำประกันอุบัติเหตุ และสุขภาพด้วยทุนประกันที่เพียงพอเพื่อช่วยบรรเทาภาระหากเกิดเหตุฉุกเฉินข้างต้น เพราะการได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสมจะช่วยให้ตัว ผู้ประสบเหตุและครอบครัวสามารถฟันฝ่าวิกฤติทางการเงินและสุขภาพไปได้ด้วยดี พร้อมจะช่วยส่งผลถึงความ มั่นคงทางการเงินในระยะยาวได้อีกด้วย" นายสุทธิกล่าวสรุป
เกี่ยวกับ เอไอเอ
เอไอเอ เป็นบริษัทประกันชีวิตที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 65 ปี มีลูกค้าไว้วางใจถือครองกรมธรรม์ประกันชีวิตกว่า 3.4 ล้านฉบับ และมีตัวแทนกว่า 52,000 คน ปัจจุบันมีทรัพย์สินรวม 226,730 ล้านบาท มีเงินสำรองประกันภัย 161,851 ล้านบาท ซึ่งสูงเป็นอันดับหนึ่งของธุรกิจประกันชีวิต นอกจากการได้รับจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินในระดับสูงสุด AAA จากสถาบันสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ (S&P's) เป็นเวลา 7 ปีติดต่อกัน และการได้รับซูเปอร์แบรนด์ในระดับแพลททินั่มของธุรกิจประกันชีวิตประจำปี 2547 จากนิตยสารรีดเดอร์ส ไดเจสท์ แล้ว เอไอเอ ประเทศไทย ยังได้รับ Superbrands Award ของกลุ่มธนาคาร สถาบันการเงิน และการประกัน จากซูเปอร์แบรนด์ส อินเตอร์แนชชั่นแนล ซึ่งเป็นองค์กรที่มีเครือข่ายใน 27 ประเทศทั่วโลก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณปรีชฎา แพนสิงห์ โทร 02 638 7923
จรินธร ธนาศิลปกุล, รุ่งนภา ชาญวิเศษ โทร 02 653 2717-9--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--