กรุงเทพฯ--26 ส.ค.--บีโอไอ
บีโอไอเตรียมออก 4 มาตรการส่งเสริมกิจการประหยัดพลังงานภายในเดือนกันยายนนี้ มุ่งส่งเสริมกิจการพลังงานทดแทน ส่งเสริมให้สถานประกอบการใช้เครื่องจักรที่ช่วยประหยัดพลังงานแต่ไม่กระทบการผลิต เตรียมเปิดประเภทส่งเสริมใหม่แก่กิจการผลิตวัสดุที่ช่วยประหยัดพลังงาน รวมทั้งให้การส่งเสริมแก่บริษัทที่ให้บริการประหยัดพลังงาน หรือ ESCO
นายสมพงษ์ วนาภา เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับ นายเชิดพงษ์ สิริวิชช์ ปลัดกระทรวงพลังงาน และ นางสิริพร ไศละสูต อธิบดีกรมพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ว่า บีโอไอมีแนวทางในการส่งเสริมการลงทุนแก่กิจการที่ช่วยประหยัดและลดใช้พลังงาน 4 แนวทาง ประกอบด้วย การส่งเสริมให้มีการผลิตพลังงาน ทดแทน ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการใช้อุปกรณ์หรือเครื่องจักรที่ช่วยประหยัดพลังงาน ส่งเสริมกิจการที่ผลิตวัสดุที่ช่วยประหยัดพลังงาน และส่งเสริมกิจการที่ให้บริการประหยัดพลังงาน โดยจะเร่งดำเนินการและนำเสนอเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ให้เร็วที่สุด เพื่อให้ทันกับการรองรับสถานการณ์ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถออกเป็นมาตรการส่งเสริมได้ภายในเดือนกันยายนนี้
ปัจจุบัน บีโอไอได้ให้การส่งเสริมกิจการผลิตพลังงานทดแทนอยู่แล้ว อาทิ แก๊สโซฮอล์ และไบโอดีเซล แต่จากการหารือในวันนี้พบว่ายังมีกิจการประเภทอื่นๆ ที่สามารถผลิตพลังงานทดแทนได้ อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานไฟฟ้าจากลม ไบโอแก๊ส หรือแม้แต่กิจการด้านการเกษตรก็สามารถนำเอาของเสีย หรือขยะไปทำเป็นแหล่งพลังงานได้ ทั้งนี้ กรมพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานจะจัดส่งรายละเอียดมาให้บีโอไอพิจารณาหาทางส่งเสริมต่อไป สำหรับเรื่องการส่งเสริมให้สถานประกอบการใช้เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ช่วยประหยัดพลังงานนั้น ก็เพื่อให้ผู้ประกอบการใส่ใจกับการผลิตแบบใช้พลังงานลดลงแต่ได้ผลการผลิตเท่าเดิม
นอกจากนี้ บีโอไอก็จะส่งเสริมการลงทุนแก่กิจการที่ผลิตวัสดุประหยัดพลังงานทุกประเภท ซึ่งกระทรวงพลังงานจะช่วยสนับสนุนเรื่องทางเทคนิคให้กับบีโอไอ ว่ามีวัสดุอะไรบ้างที่ช่วยประหยัดพลังงาน อาทิ อิฐ พนัง หลังคา กระจก ฉนวนกันความร้อน เพื่อที่บีโอไอจะเปิดประเภทให้ส่งเสริมการผลิตวัสดุที่สามารถช่วยประหยัดพลังงาน
นายสมพงษ์กล่าวด้วยว่า บีโอไอจะให้การส่งเสริมแก่กิจการที่ให้บริการประหยัดพลังงาน หรือ ESCO (Energy Service Company) ซึ่งกระทรวงพลังงานได้ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่กิจการเหล่านี้ ดังนั้น บีโอไอก็จะเข้ามาสนับสนุนในส่วนของสิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งขอบเขตของบีโอไอสามารถยกเว้นภาษีเงินได้จากการให้บริการของกิจการ ESCO ได้ และสามารถยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร อุปกรณ์ต่างๆ ที่จะนำมาใช้ในการประหยัดพลังงานได้ เพื่อสนับสนุนให้มีกิจการ ESCO ในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--