เอ็ม. วี. ที. ประกาศพร้อมรุกตลาดผู้แทนจำหน่ายระบบเครือข่าย ชูจุดเด่น “วันสต็อป ช้อป” ด้านอุปกรณ์เครือข่ายครบวงจร

อังคาร ๐๗ กันยายน ๒๐๐๔ ๑๕:๔๓
กรุงเทพฯ--7 ก.ย.--คอร์ แอนด์ พีค
เอ็ม. วี. ที. ประกาศพร้อมรุกตลาดผู้แทนจำหน่ายระบบเครือข่ายในไทย ชูจุดเด่น “วันสต็อป ช้อป” ให้บริการด้านผลิตภัณฑ์ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ครบวงจร ตั้งเป้ารุกตลาดหน่วยงานราชการ ตลาดอุตสาหกรรม และกลุ่มองค์กรธุรกิจทั่วไป เน้นความพร้อมด้านบริการหลังการขาย “สมาร์ท แคร์” มัดใจลูกค้า
นายภาณุ ศีติสาร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ม. วี. ที. คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานแถลงข่าวว่า บริษัท เอ็ม. วี. ที. ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2540 ชื่อเดิมคือ บริษัท มัลติวิชั่น เทคโนโลยี จำกัด วัตถุประสงค์ของการก่อตั้งบริษัทเพื่อดำเนินธุรกิจเป็นผู้แทนจำหน่าย และติดตั้งระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ที่ใช้ในระบบสื่อสาร เช่น ไฟเบอร์ ออพติค เคเบิล (Fiber Optic Cable), แพช คอร์ด (patch cord) ตลอดจนอุปกรณ์ระบบสำรองไฟฟ้า (UPS)
จากนั้นในปี 2543 บริษัทฯ ได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท เอ็ม. วี. ที. คอมมิวนิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมจัดตั้งบริษัทในเครือ คือ บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (พีเอสที) เพื่อรองรับงานด้านระบบสำรองไฟฟ้าที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว และในปี 2545 บริษัท เอ็ม. วี. ที. ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO9001: 2000 ซึ่งนับเป็นบริษัทลำดับต้นๆ ในธุรกิจนี้ที่ได้รับรองมาตรฐานดังกล่าว โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ และมียอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
ทั้งนี้จุดมุ่งหมายของบริษัทคือ “วันสต็อป ช้อป” เป็นศูนย์รวมทางด้านอุปกรณ์และโซลูชั่นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ครบวงจร ภายใต้สโลแกนของบริษัทที่ว่า “Your Total Resource for Network Solutions” รวมทั้งมีความมุ่งมั่นที่จะจัดหา หรือผลิตสินค้าที่ดี มีคุณภาพ และราคาเหมาะสม พร้อมบริการหลังการขายที่ดีที่สุดแก่กลุ่มลูกค้าของบริษัทฯ
ปัจจุบัน บริษัท เอ็ม. วี. ที. ได้รับความไว้วางใจจากผู้ผลิตสินค้าต่างๆ ทั่วโลก ให้เป็นผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทย และรวมถึงตลาดอินโดไชน่า โดยแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ออกเป็น 12 กลุ่ม คือ เน็ตเวิร์ค โซลูชั่น (Network Solutions), ไฟเบอร์ ออพติค เคเบิล (Fiber Optic Cable), ไฟเบอร์ ออพติค แอคเซสเซอรี่ (Fiber Optic Accessories), แลน เคเบิล (LAN Cable), สายนำสัญญาณทางด้านโทรคมนาคมและอุปกรณ์ต่อพ่วง (Coaxial Cable & Accessories), เฟิร์ส คอนเน็คส์ (First Connex), อุปกรณ์แรค และแอคเซสเซอรี่ (Rack & Accessories), ยูพีเอส (UPS), แบตเตอร์รี่ ซิสเต็ม (Battery System), อุปกรณ์สลับกระแสไฟฟ้า (Rectifier), ระบบพลังงานสำรองโซล่า เซล (Solar Cell) และบริการที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมเครือข่าย (Engineering Services) โดยกลุ่มลูกค้าหลักๆ ของบริษัทฯ ได้แก่ กลุ่มหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ กลุ่มลูกค้าองค์กร และกลุ่มธุรกิจทั่วไป
ล่าสุดบริษัทฯ เพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์สายไฟเบอร์ ออพติค เคเบิล ยี่ห้อ ดราก้า คอมเทค (Draka Comteq) ซึ่งเป็นผู้ผลิตสายไฟเบอร์ ออพติค เคเบิลรายใหญ่ที่สุดในโลก และได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ข่ายสายสัญญาณคอมพิวเตอร์ยี่ห้อ เน็กซานส์ (Nexans) ซึ่งได้รับการยอมรับด้านคุณภาพมาแล้ว ทั่วโลก รวมทั้งยังได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบเครือข่ายยี่ห้อคอเรก้า (Corega) โดยทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ ทางบริษัทฯ ได้รับสิทธิ์เป็น ตัวแทนจำหน่ายเพียงรายเดียวในประเทศไทย
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเน้นเรื่องการบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพ ด้วยการริเริ่มโครงการสมาร์ท แคร์ บริการหลังการขายให้แก่ลูกค้าของบริษัทฯ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น บริการเข้าไปตรวจเช็ค ดูแลสภาพอุปกรณ์ อัพเกรดเฟิร์มแวร์ บริการให้คำปรึกษาในการที่จะดูแลอุปกรณ์เครือข่ายให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานข้น รวมถึง สิทธิพิเศษในการได้รับข่าวสารและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้แก่ วารสารเอ็ม. วี. ที. การจัดอบรมสัมมนาข่าวสารในแวดวงไอทีและโทรคมนาคม อัพเดทสินค้า และบริการล่าสุดจากทางบริษัทฯ
นายภาณุกล่าวเพิ่มเติมว่า “ในส่วนของยอดขายปี 2546 ที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้รวมประมาณ 128 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ โดยปัจจัยที่ทำให้ยอดขายของบริษัทฯ เติบโตนั้นมาจากนโยบายภาครัฐที่มุ่งมั่นจะพัฒนาระบบ E-Government, E-Business, E-Education และสนับสนุนให้องค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันด้านต่าง ๆ ทั้งด้านการบริการ การผลิต การจัดการ ฯลฯ รวมทั้งให้ความสำคัญทางด้านการลงทุนและพัฒนาระบบอินฟอร์เมชั่น และคอมมิวนิเคชั่น เทคโนโลยี (ไอซีที) ในองค์กรเหล่านั้นให้ทันสมัย และมีประสิทธิภาพ และยิ่งไปกว่านั้นนโยบายภาครัฐยังมุ่งที่จะให้การส่งเสริมและพัฒนาในด้านระบบพลังงานสำรองเช่น โซล่าเซล ดังจะเห็นได้ในโครงการไฟฟ้าเอื้ออาทร, โครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น”
“สำหรับแผนธุรกิจในอนาคต บริษัท เอ็ม. วี. ที. คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) กำลังเตรียมการที่จะยื่นเข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ (MAI) ประมาณต้นปีหน้าเพื่อที่จะระดมทุนมารองรับการขยายงานด้านการให้เช่าระบบเครือข่าย และรุกตลาดทางด้านระบบสำรองไฟฟ้า UPS ในตลาดอุตสาหกรรม และตลาดระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ตลอดจนตลาดผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมทั้งมีแผนที่จะผลักดันผลิตภัณฑ์ภายใต้ยี่ห้อสินค้าของตัวเอง และรองรับการขายอุปกรณ์ Rectifier พร้อมระบบ Battery Backup ที่มีความต้องการเป็นจำนวนมากในโครงการต่างๆ ของภาครัฐ ที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดยบริษัทฯ ได้แต่งตั้งให้บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทฯ” นายภาณุกล่าวสรุปท้าย
คุณศรีสุพัฒ เสียงเย็น, คุณบุษกร สนธิกร
ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ บริษัท คอร์ แอนด์ พีค จำกัด
โทร. 0-2439-4600 ต่อ 8300, 8202
อีเมล์ [email protected], [email protected]จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ