กรุงเทพฯ--24 ก.ย.--บีโอไอ
บีโอไอเปิดศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคเหนือแห่งที่ 2 หลังการลงทุนภาคเหนือขยายตัว 4 เท่า หวังกระตุ้นการลงทุนภาคเหนือตอนล่าง 9 จังหวัด ชูศักยภาพการเป็น คลัสเตอร์ข้าว ผอ.ศูนย์ฯ ตั้งเป้าปีหน้าดึงการลงทุนอย่างน้อย 30 โครงการ
นายสมพงษ์ วนาภา เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังงานเปิดศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคเหนือ 2 จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นสำนักงานแห่งที่ 2 ของ บีโอไอในภาคเหนือ ว่า เป็นการดำเนินงานตามนโยบายส่งเสริมการลงทุนเชิงรุกของบีโอไอ ที่เน้นส่งเสริมการลงทุนทั้งในและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น (DDI: Domestic Direct Investment, FDI: Foreign Direct Investment) ดังนั้นการเปิดศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคเหนือ 2 จังหวัดพิษณุโลกก็จะมีบทบาทในการกระตุ้นและส่งเสริมการลงทุนในภาคเหนือได้มากยิ่งขึ้น
“ ภาวะการลงทุนในภาคเหนือช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ มีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น จาก 32 โครงการในปีที่ผ่านมาเพิ่มเป็น 57 โครงการในปีนี้ ส่วนมูลค่าเงินลงทุนก็เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าตัว จาก 3 พันล้านบาทเป็น 1.2 หมื่นล้านบาท จึงจำเป็นที่จะต้องเปิดสาขาเพิ่มเพื่อให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ ในภูมิภาคอย่างใกล้ชิด “ เลขาธิการบีโอไอกล่าว
ทั้งนี้ ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคเหนือ 2 จะดูแลรับผิดชอบการลงทุนใน 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ประกอบด้วย ตาก อุตรดิตถ์ สุโขทัย เพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร นครสวรรค์ และอุทัยธานี ส่วนศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคเหนือ 1 จังหวัดเชียงใหม่ จะดูแลการลงทุนใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ประกอบด้วย เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน แพร่ น่าน ลำพูน ลำปาง และพะเยา
ด้านนายชนินทร์ ขาวจันทร์ ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคเหนือ 2 จังหวัด พิษณุโลก กล่าวว่า หลังจากที่ได้เริ่มงานมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ก็ได้เดินทางไปพบปะหารือกับผู้ประกอบการทุกระดับ ตลอดจนหน่วยงานราชการและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ทำให้ทราบว่าภาคเหนือตอนล่างมีศักยภาพในด้านอุตสาหกรรมเกษตรและเกษตรแปรรูป เพราะมีพื้นที่เหมาะแก่การเพาะปลูก มีความอุดมสมบูรณ์ บีโอไอจึงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์จำพวก สมุนไพร ผัก ผลไม้ และข้าว รวมไปถึงการส่งเสริมเครื่องจักรกลการเกษตรด้วย
นอกจากนี้ ภาคเหนือตอนล่างยังมีความเหมาะสมในการเป็นศูนย์กลางการขนส่งและกระจายสินค้าทางด้านลอจิสติก เพราะพื้นที่สามารถเชื่อมโยงเป็นสี่แยกอินโดจีนที่จังหวัดพิษณุโลก
สำหรับภาวะการลงทุนใน 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่างในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้พบว่า มีนักลงทุนยื่นคำขอรับส่งเสริมมาประมาณ 11 โครงการ คิดเป็นเงินลงทุน 3,835 ล้านบาท ซึ่งแม้จะมีจำนวนโครงการเท่ากันกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่มูลค่าเงินลงทุนในปีนี้สูงกว่าปีที่แล้วประมาณ 1,000 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายในปีหน้า 2548 คาดว่าจะเกิดการลงทุนในภาคเหนือตอนล่างอย่างน้อย 30 โครงการ ซึ่งขณะนี้ได้ประสานความร่วมมือไปยังกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมพิจิตร เพื่อชักชวนนักลงทุนต่างประเทศรายอื่นๆ เข้ามามากขึ้น--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--