กรุงเทพฯ--4 ต.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
มร.เดวิด คลาร์ก เจ้าหน้าที่โครงการด้านโภชนาการ จากองค์การยูนิเซฟ สำนักงานใหญ่ นิว
ยอร์ค (Mr.David Clark Legal Officer, Nutrition Section Programme Division of UNICEF) เป็น ประธานแถลงข่าวสรุปผลการประชุม “สถานการณ์และแนวทาง สู่ความสำเร็จ ของการ
เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในประเทศไทย” ซึ่งจัดโดยองค์การยูนิเซฟ ร่วมกับ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขและกลุ่มนมแม่ ณ ห้องอัมพรพิมาน โรงแรมเดอะแกรนด์ ถนนรัชดาภิเษก
มร.เดวิด คลาร์ก (Mr.David Clark) ในฐานะที่ทำงานเกี่ยวกับกฎหมายทางด้านโภชนาการทางอาหาร จากองค์การยูนิเซฟ กล่าวว่า “ สถานการณ์ การล่วงละเมิดข้อบัญญัติของประมวลสากลฯ ว่าด้วยการตลาดอาหารทารกและเด็กเล็ก รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง (Code of Marketing) ทั่วโลกตอนนี้ เหล่าบริษัทอาหารสำหรับทารก ทั้งระดับชาติและบริษัทข้ามชาติ ยังคงละเมิดข้อบัญญัติของประมวลสากลอย่างเป็นระบบ ในประเทศไทย จากการสำรวจเมื่อ ปี 2546 ผลปรากฏว่ามีการแจกจ่ายอาหารสำหรับทารก โดยไม่คิดมูลค่าในสถานพยาบาล ซึ่งวิธีนี้เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ได้รับผลสูงสุดวิธีหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่เป็นสิ่งต้องห้ามตามประมวลสากลฯ คำตอบสั้น ๆ ที่ประเทศไทยยังประสบปัญหานี้อยู่คือ การบังคับใช้ประมวลสากลยังหละหลวมอยู่ จึงอยากให้รัฐฯเร่งบัญญัติออกเป็นกฎหมาย และให้ทุกฝ่ายสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว ให้ครบ 6 เดือน แล้วค่อยให้ทานอาหารอย่างอื่นร่วมได้ ด้านสถิติอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อย่างน้อย 6 เดือนในแถบเอเชีย คิดเป็น 60 % สำหรับอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ในประเทศไทย มีเพียง 17 % เท่านั้น ซึ่งนับว่าต่ำที่สุดประเทศหนึ่ง ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ”
ด้านกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข โดย แพทย์หญิงนิพรรณพร วรมงคล หัวหน้ากรมอนามัยแม่และเด็ก สำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย กล่าวว่า “ กรมอนามัยกำลังเร่งผลักดัน ให้แม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้ได้ 6 เดือน รวมไปถึงการขับเคลื่อนเรื่องด้านหลักเกณฑ์การตลาดอาหารทารกและเด็กเล็ก รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ออกเป็นกฎหมายบังคับใช้ในประเทศไทย นอกจากนี้ยังสนับสนุนโครงการโรงพยาบาลสายสัมพันธ์แม่ลูกเพื่อเป็นที่ปรึกษาให้กับบรรดาแม่ ๆ ทั้งหลายอีกด้วย”
ส่วน แพทย์หญิงสุวิมล ชีวมงคล ประธานบริหารกลุ่มนมแม่ ผู้ผลักดันโครงการมุมให้นมแม่ กล่าวว่า “ จากการที่ได้ไปพบปะกับกลุ่มคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ และคุณแม่ที่มีลูกอยู่ในวัยไม่เกิน 1 ขวบ กว่า 1,000 คน จาก 59 จังหวัด ทำให้ทราบว่า แม่ทุกคนรู้ว่านมแม่ดี และมีประโยชน์ แต่จะทำอย่างไรให้สามารถให้นมลูกได้ถูกต้องและนานที่สุด กลุ่มนมแม่ จึงตระหนักว่าเราจะต้องสร้างความเชื่อมั่นในการให้นมของแม่ ให้แม่อดทนกับสิ่งรอบข้าง ทั้งตัวบุคคล รวมถึงข้อมูลความรู้ที่แตกต่างกัน เราจึงผลักดันโครงการมุมให้นมแม่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับแม่ ในการเก็บน้ำนมไว้ให้ลูก โดยมีสถานประกอบการต่างๆ ให้ความร่วมมือแล้ว กว่า 30 แห่ง และนอกจากนี้เรายังมีคุณแม่ที่มีประสบการณ์ในการให้ลูกกินนมแม่จนประสพความสำเร็จมาเป็นสื่อที่จะให้ข้อมูลกับว่าที่คุณแม่”
ในส่วนของผลจากการประชุมระดมสมองที่ได้จากบรรดาบุคลากรทางการแพทย์ และแม่ ๆ ทั้งหลายออกมาว่า กลยุทธ์ที่จะทำให้ประสพความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่คือ นโยบายที่ชัดเจนจากผู้กำหนดนโยบาย รวมถึงการนำหลักเกณฑ์ การตลาดอาหารทารกและเด็กเล็ก ตลอดจนผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องนำไปปฏิบัติจริง ทุกคนต้องรู้เท่าทัน ให้สิทธิแม่ในการเลือกวิธีเลี้ยงลูกบนพื้นฐานของการได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ที่สำคัญสื่อ ประชาสัมพันธ์ ต้องแพร่หลาย ให้ความรู้แก่ทุกคนรวมถึงเด็กเล็ก ก่อนวัยเรียน ด้านรัฐ ต้องมีกลไกการติดตามประเมินผล การทำงานส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างต่อเนื่อง คุณแม่ทุกคนยังเน้นถึงแก่นแท้ความสำเร็จของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ว่าความรู้ที่ดี รู้จริง ถูกต้อง และเป็นกลาง ของบุคคลรอบข้าง โดยเฉพาะสามี จะเป็นแรงสนับสนุนที่ดีแก่ว่าที่คุณแม่
นอกจากนี้กิจกรรมในการแถลงข่าว ยังมีการพูดคุยจากแม่ผู้มีประสบการณ์ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่าง เพียงดาว ชัยรุ่งเรือง และ ศุภมิตร มุนินทร์นิมิตต์ ส่วน กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รองประธานบริษัทโตชิบา ประเทศไทย ในเรื่องเกี่ยวกับการสนับสนุนในเรื่องมุมให้นมแม่ (Nursing Break)
ผลจากการประชุมครั้งนี้ ทุกฝ่ายต่างตระหนักถึงความสำคัญของนมแม่ และพร้อมจะให้ความร่วมมือในการสนับสนุน เพื่อเป็นแนวทางสู่ความสำเร็จของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บริษัทแม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด
โทร.0-2434-8300
สุจินดา, แสงนภา, ชลธิชา
หรือ กลุ่มนมแม่ โทร. 0-262-0855-6--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--