ลูเซ่น เทคโนโลยี่ส์ ผนึกริเวอร์สโตน เน็ทเวิร์คส ให้บริการวางระบบโครงข่าย อีเธอร์เน็ตแบบครบวงจรสำหรับผู้ให้บริการโทรคมนาคม

กรุงเทพฯ--7 ต.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
บริษัท ลูเซ่น เทคโนโลยี่ส์ (หรือมีชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์กว่า LU) ร่วมกับบริษัท ริเวอร์สโตน เน็ทเวิร์คส (หรือมีชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์แนสแด็กว่า RSTN.PK) ประกาศความร่วมมือพร้อมเปิดให้บริการวางระบบโครงข่ายอีเธอร์เน็ตแบบ ครบวงจรเพื่อยกระดับประสิทธิภาพระบบโครงข่ายโทรคมนาคมของผู้ให้บริการสื่อสาร
การผนึกกำลังร่วมกับริเวอร์สโตนครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมให้ลูเซ่นมีรากฐานที่แข็งแกร่งและสามารถนำเสนอโซลูชั่นด้านโครงข่ายระบบการสื่อสารแบบครบวงจรที่รวมเอาความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ถึง 3 ชนิดสู่ลูกค้าในตลาดได้อย่างยอดเยี่ยม ได้แก่ อุปกรณ์ Lucent Stinger Digital Subscriber Line Access Concentrator ที่รองรับมาตรฐานระบบ IP (หรือ Internet Protocol) พร้อมเพิ่มศักยภาพโครงข่ายด้วยเทคโนโลยีอีเธอร์เน็ตล้ำสมัยของริเวอร์สโตน รวมทั้งเร้าเตอร์ของจูนิเปอร์ เน็ทเวิร์คส (Jupiter network router) สำหรับโครงข่ายการสื่อสารหลัก และโซลูชั่น อีเธอร์เน็ตสำหรับการรับส่งสัญญาณไปยังโครงข่ายสื่อสัญญาณ Sonet/SDH ผ่านเครือข่ายใยแก้วนำแสงของลูเซ่น ทั้งนี้ ระบบโครงข่ายการสื่อสารใหม่ดังกล่าวยังใช้เทคโนโลยีการรับส่งสัญญาณแบบ VOIP : Value Over IP ของลูเซ่น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ระบบโครงข่าย การสื่อสารมีความสมบูรณ์แบบและมีขีดความสามารถรองรับบริการสื่อสารได้ทั้งเสียง ภาพ และการบริการข้อมูลต่างๆ สมกับเป็นระบบโครงข่ายการสื่อสารแห่งอนาคตอย่างแท้จริง
การนำเทคโนโลยีการสื่อสารแบบใยแก้วนำแสง ข้อมูล และระบบการเชื่อมโยงเข้าสู่เครือข่ายของ ลูเซ่น มาผนวกกับระบบอีเธอร์เน็ตเร้าเตอร์ของริเวอร์สโตน จะช่วยให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมสามารถให้บริการมัลติมีเดียแบบครบวงจรด้วยเทคโนโลยี DSL ซึ่งมีแบนด์วิธในการรับส่งสัญญาณสูง ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากขึ้น ทั้งยังสามารถปรับขยายโครงข่าย
การสื่อสารอีเธอร์เน็ตแบบ VPN : Virtual Private Networks และการบริการอินเทอร์เน็ตสำหรับ ลูกค้าประเภทองค์กรธุรกิจได้ตามต้องการ นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการต่างๆ ผ่านเครือข่ายเอทีเอ็ม (Asynchronous Transfer Mode) และเครือข่ายแบบเฟรม ลีเลย์ โดย การเชื่อมโยงการทำงานเข้ากับเครือข่ายอีเธอร์เน็ตที่มีความยืดหยุ่นและมีช่องสัญญาณกว้างเพื่อรองรับการให้บริการต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ บริษัท อินโฟเนติกส์ รีเสิร์ช คาดการณ์ว่า ผู้ให้บริการสื่อสารทั่วโลกจะลงทุนติดตั้งอุปกรณ์โครงข่ายอีเธอร์เน็ต (สำหรับเครือข่ายการสื่อสารข้อมูลและโครงข่ายใยแก้วนำแสง) คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 25,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2546 — 2550
“การร่วมมือกับริเวอร์สโตนในครั้งนี้ จะช่วยให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่ใช้โครงข่ายอีเธอร์เน็ตของลูเซ่นในปัจจุบัน สามารถรับส่งสัญญาณผ่านโครงข่ายอีเธอร์เน็ตไปยังโครงข่ายสื่อสัญญาณ SONET/SDH อีกทั้งช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถเปิดให้บริการการสื่อสารในรูปแบบใหม่ๆ ผ่าน เครือข่ายอีเธอร์เน็ตที่มีอยู่เดิมได้” นายไมเคิล นีลเส็น ประธาน กลุ่มธุรกิจเครือข่ายข้อมูล บริษัท ลูเซ่น เทคโนโลยี่ส์ กล่าว และเสริมว่า “ การเป็นพันธมิตรร่วมกันครั้งนี้ จะช่วยให้ลูกค้าของเราได้ประโยชน์จากการลงทุนอย่างคุ้มค่า อีกทั้งยังสร้างโอกาสในการขยายการดำเนินงาน และสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากเครือข่ายการสื่อสารที่มีอยู่ และพร้อมก้าวสู่อนาคตได้อย่างมั่นใจ”
ลูเซ่นจะเป็นผู้ให้บริการติดตั้งโซลูชั่นการสื่อสารแบบครบวงจร พร้อมด้วยบริการสนับสนุนทางเทคนิค และการบำรุงรักษาแก่ลูกค้าที่สั่งซื้อระบบอีเธอร์เน็ตเราเตอร์ของริเวอร์สโตนจากลูเซ่น
“การบรรลุข้อตกลงร่วมกับลูเซ่นครั้งนี้ จะช่วยให้ทั้งสองบริษัทสามารถนำจุดแข็งของตนมาใช้ในการเสริมสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานและบริการบนโครงข่ายอีเธอร์เน็ตที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมทั้งช่วยสร้างโอกาสในการเปิดให้บริการสื่อสารแบบมัลติมีเดียแห่งอนาคตได้ดีที่สุด” นาย ออสคาร์ โรดริเกซ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสูงสุด บริษัท ริเวอร์สโตน เน็ทเวิร์คส กล่าว
ภายใต้ข้อตกลงร่วมกันดังกล่าว ลูเซ่นจะนำอุปกรณ์อีเธอร์เน็ตเร้าเตอร์ที่รองรับระบบ MPLS : Multiprotocol Label Switching ของริเวอร์สโตนมาใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ระบบ รวมทั้งเชื่อมโยงการทำงานของระบบซอฟท์แวร์ และการบริการสนับสนุนต่างๆ กับลูเซ่น เพื่อให้ผู้บริการสื่อสารทั่วโลกสามารถเชื่อมโยงโครงข่ายสื่อสารต่างๆ ที่มีการทำงานแยกจากกันในปัจจุบัน ให้กลายเป็นโครงข่ายแบบอีเธอร์เน็ตที่มีความยืดหยุ่นสามารถรองรับการใช้งานได้อย่างเต็มที่ โดยอุปกรณ์ อีเธอร์เน็ตเร้าเตอร์ของริเวอร์สโตนจะทำงานร่วมกับสวิตช์แบบ Multiservice ของลูเซ่น เพื่อให้ ลูกค้าสามารถพัฒนาระบบเครือข่ายเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการให้บริการข้อมูล จากที่เปิดให้บริการอยู่เดิมไปสู่รูปแบบใหม่ๆ ในอนาคตได้อย่างราบรื่น โดยเทคโนโลยีและอุปกรณ์ของ ริเวอร์สโตนจะช่วยให้การเชื่อมต่อเครือข่ายและการรับส่งข้อมูลผ่านโครงข่ายใยแก้วนำแสงของ ลูเซ่นมีการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีการสื่อสารแบบครบวงจรที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างลูเซ่น เทคโนโลยี่ส์ และ ริเวอร์สโตน เน็ทเวอร์คส ส่งผลให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมสามารถใช้ประโยชน์จากโครงข่ายการสื่อสารและซอฟท์แวร์ที่มีอยู่เดิมได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากผู้ให้บริการจะสามารถปรับขยายระบบไปสู่ระบบเครือข่ายการสื่อสารแบบอีเธอร์เน็ตความเร็วสูง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเครือข่ายการสื่อสารแห่งอนาคตได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ให้บริการสามารถเปิดให้บริการรูปแบบใหม่ๆ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น ทั้งสองบริษัทจะร่วมมือกันต่อไปเพื่อคิดค้นและพัฒนาโซลูชั่นที่สมบูรณ์แบบ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและสร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ ให้แก่ผู้ให้บริการสื่อสารอย่างไม่หยุดยั้ง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
ความร่วมมือทางธุรกิจครั้งนี้ กรุณาแวะเข้าไปที่ www.lucent.com/riverstone
เกี่ยวกับลูเซ่น เทคโนโลยี่ส์
ลูเซ่น เทคโนโลยี่ส์ เป็นผู้ออกแบบและพัฒนาระบบซอฟต์แวร์และการบริการด้านโครงข่ายเพื่อการสื่อสารในยุคอนาคต ด้วยการสนับสนุนของศูนย์ปฏิบัติการค้นคว้าและวิจัยเบลล์แล็บ (Bell Labs) ลูเซ่นมุ่งเน้นดำเนินธุรกิจด้านระบบการสื่อสารไร้สาย ระบบโครงข่ายใยแก้วนำแสงที่รองรับได้ทั้งเสียงและข้อมูล รวมทั้งการบริการด้านซอฟท์แวร์และบริการต่างๆ เพื่อยกระดับระบบโครงข่ายการสื่อสารไปสู่อนาคต ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ออกแบบระบบ ซอฟท์แวร์ และการบริการ โดยมุ่งเน้นให้ลูกค้าสามารถนำระบบไปใช้ได้อย่างรวดเร็วและสามารถบริหารโครงข่ายการสื่อสารได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ลูกค้าสามารถเพิ่มรายได้จากการเปิดให้บริการรูปแบบใหม่ๆ
ฐานลูกค้าของลูเซ่นประกอบด้วยผู้ให้บริการโทรคมนาคม ภาครัฐ และองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ต่างๆ ในระดับโลกสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับลูเซ่น เทคโนโลยี่ส์ กรุณาแวะไปที่เว็บไซต์ http://www.lucent.com
เกี่ยวกับริเวอร์สโตน เน็ทเวิร์คส
บริษัท ริเวอร์สโตน เน็ทเวิร์คส อิ๊งค์ (มีชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์แนสแด็กว่า RSTN.PK) เป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นรองรับโครงข่ายอีเธอร์เน็ตแห่งยุคอนาคต สำหรับผู้ให้บริการโทรคมนาคม โดยคิดค้นและพัฒนาระบบเร้าเตอร์และโซลูชั่นการสื่อสารที่ใช้งานง่าย คุ้มค่า มีความยืดหยุ่นและคล่องตัว เพื่อช่วยให้ผู้ให้บริการสื่อสารสามารถให้บริการโครงข่ายการสื่อสารด้วยเสียง ภาพ และข้อมูลได้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้บริการ นอกจากนี้ ระบบโซลูชั่นการสื่อสารของริเวอร์สโตน ยังสนับสนุนผู้ให้บริการสื่อสารในการพัฒนาบริการสื่อสารด้านต่างๆ บนโครงข่ายการสื่อสารที่ใช้อยู่เดิมและโครงข่ายอีเธอร์เน็ตรุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ข้อมูลที่กล่าวถึงในข่าวประชาสัมพันธ์ชิ้นนี้นอกจากจะประกอบด้วยข้อมูลประวัติของบริษัทฯ แล้ว ยังครอบคลุมถึงข้อมูลที่เป็นการประเมินสถานการณ์ในอนาคต (forward-looking statement) ได้แก่ การผนวกผลิตภัณฑ์ของริเวอร์สโตนเข้าไว้ในบริการโซลูชั่นเครือข่ายของลูเซ่น การคาดการณ์ยอดขายของผลิตภัณฑ์ของริเวอร์สโตนภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ระบุไว้ในข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดจำหน่ายทั่วโลกระหว่างลูเซ่นและริเวอร์สโตน ซึ่งการใช้ข้อความที่เป็นการประเมินสถานการณ์ในอนาคตดังกล่าวเป็นไปตามบทบัญญัติ “safe harbour” provisions ตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปการฟ้องร้องคดีหลักทรัพย์ส่วนบุคคล พ.ศ. 2538 (Private Securities Litigation Reform Act of 1995) ข้อความดังกล่าวมีผล ณ วันที่ที่ระบุไว้ในข่าวประชาสัมพันธ์ชิ้นนี้เท่านั้น
และขึ้นอยู่กับความเสี่ยง และความไม่แน่นอนที่อาจทำให้ผลที่แท้จริงแตกต่างไปอย่างมาก ซึ่งได้แก่ ปัญหาและอุปสรรคที่ไม่สามารถคาดคะเนได้ในการผนวกรวมผลิตภัณฑ์ของริเวอร์สโตนและลูเซ่นเข้าไว้ด้วยกัน การที่ผลิตภัณฑ์และบริการที่เกิดจากการผนวกเทคโนโลยีของลูเซ่นและริเวอร์สโตนเข้าไว้ด้วยกันไม่ได้รับการยอมรับจากตลาด รวมถึงความเสี่ยงที่ระบุไว้ในรายงานของบริษัท ริเวอร์สโตน เน็ทเวิร์คส ที่ได้นำเสนอต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และในรายงาน 10-Q ประจำไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 29 พฤศจิกายน 2546 นำเสนอเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2547 และในรายงานฉบับ 8-K โดยบริษัทฯ สละสิทธิ์ความรับผิดชอบต่อ
การปรับปรุงหรือแก้ไขข้อความที่เป็นการประเมินสถานการณ์ในอนาคตดังกล่าว
สื่อมวลชนสัมพันธ์:
พรทิพย์ เลิศเวชกุล / จารุวรรณ วรรักษ์ธนานันท์
อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
โทร. 0-2252-9871
อีเมล์: [email protected],
[email protected]จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--