กรุงเทพฯ--21 ต.ค.--ธสน.
นายสถาพร ชินะจิตร กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ชี้แจงถึงผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในสหภาพพม่าต่อโครงการเงินกู้ของ ธสน. ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองภายในสหภาพพม่าที่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการของลูกค้าหรือเงินกู้เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจแก่สหภาพพม่าที่ ธสน. ให้กู้ผ่านธนาคารเพื่อการค้าของสหภาพพม่า ทั้งนี้ ธสน. ยังเฝ้าติดตามสถานการณ์ในพม่าต่อไปว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล
สหภาพพม่าอย่างไรหรือไม่
กรรมการผู้จัดการ ธสน. กล่าวว่า ปัจจุบัน ธสน. มีสินเชื่อที่ให้กู้แก่เอกชนและรัฐบาลสหภาพพม่าจำนวน 6,157 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการรัฐบาล 3,339 ล้านบาท โครงการรัฐวิสาหกิจ 1,898 ล้านบาท และโครงการเอกชน 920 ล้านบาท ยอดสินเชื่อจากโครงการเงินกู้ 4,000 ล้านบาท ที่ ธสน. ให้กู้แก่ Myanma Foreign Trade Bank (MFTB) โดยมีกระทรวงการคลังของสหภาพพม่าเป็นผู้ค้ำประกัน เพื่อใช้ซื้อสินค้าทุนและบริการที่เกี่ยวข้องจากไทย ซึ่ง ธสน. ได้ให้ความเห็นชอบการจัดซื้อตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวไปแล้วเป็นเงิน 2,377 ล้านบาท ล่าสุดมีการเบิกจ่ายไปแล้ว 339 ล้านบาท
นายสถาพรกล่าวว่า ไทยและสหภาพพม่าเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น จึงเชื่อได้ว่า สถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองประเทศ และเชื่อว่านโยบายในการพัฒนาเศรษฐกิจของ สหภาพพม่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจนกระทบกระเทือนต่อเงินกู้ต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่แล้ว
เกี่ยวกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) เป็นสถาบันการเงินของรัฐที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการคลัง จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2536 ซึ่งกำหนดขอบเขตอำนาจให้ธนาคารสามารถทำธุรกิจทุกประเภทที่ธนาคารพาณิชย์ทำได้ ยกเว้นเพียงการรับฝากเงินจากประชาชนทั่วไป โดยมีวัตถุประสงค์ในการให้บริการทางการเงินเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกไทยและนักลงทุนไทยในต่างประเทศ และสนับสนุนการได้มาซึ่งเงินตราต่างประเทศของไทยหรือประหยัดเงินตราต่างประเทศ
ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักบริหาร
โทร. 0 2271 3700, 0 2278 0047, 0 2617 2111 ต่อ 1142 - 5--จบ--
- ๒๓ พ.ย. EXIM BANK ร่วมประชุมประจำปีธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าในเอเชีย ครั้งที่ 29 สานพลังองค์กรพันธมิตรส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ
- ๒๔ พ.ย. EXIM BANK ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate 0.25% ต่อปี คงเหลือ 6.35% ต่อปี ต่ำที่สุดในระบบ บรรเทาภาระผู้ประกอบการกลุ่มเปราะบางและ SMEs
- ๒๓ พ.ย. EXIM BANK พบปะทวิภาคีองค์กรรับประกันระดับโลก สนับสนุนผู้ประกอบการไทยบริหารความเสี่ยงขยายธุรกิจส่งออกและลงทุนระหว่างประเทศ