"เมโทรสตาร์" ชี้ตลาดอาคารชุดยังไปได้สวยมั่นใจโครงการ "เซ็นต์หลุยส์ แกรนด์ เทอเรส" ยอดขายฉลุย

กรุงเทพฯ--29 ต.ค.--อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น
เมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ ระบุธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อีกทั้งนี้ต้องรู้จักตลาดและความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้งแท้จริง โดยเฉพาะอาคารชุดซึ่งปัจจุบันมีจำนวนไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด และยังมีจำนวนน้อยกว่าช่วงที่เศรษฐกิจบูมมาก ในขณะที่สถานการณ์และพื้นฐานทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ในปัจจุบันแข็งแกร่งกว่าช่วงก่อนวิกฤต
นายวีระ บูรพชัยศรี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จำนวนอาคารชุดที่จะแล้วเสร็จในปี 2547-2550 ได้รับการคาดการณ์ว่าจะมีจำนวน 13,796 ยูนิต 21,652 ยูนิต 28,146 ยูนิต และ 36,590 ยูนิต ตามลำดับ ซึ่งยังนับว่าน้อยกว่าในช่วงเศรษฐกิจบูมอย่างมากโดยในปี 2538-2540 มีรายงานการจดทะเบียนอาคารชุดถึง 72,838 ยูนิต 81,845 ยูนิต 72,420 ยูนิต ตามลำดับ จึงกล่าวได้ว่าตลาดของอาคารชุดยังมีความต้องการและมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก เนื่องจากมีการขยายครอบครัวใหม่อย่างต่อเนื่อง
นายรัตนชัย ผาตินาวิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า "จากการวิเคราะห์สถานการณ์ของตลาดอาคารชุดดังกล่าว ทำให้เรามั่นใจว่าเซ็นต์หลุยส์ แกรนด์ เทอเรส ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ล่าสุดของเมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ จะได้รับการตอบรับจากผู้ซื้อเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการแห่งนี้ตั้งอยู่ริมถนนสาทรติดกับธนาคารเอเชีย สำนักงานใหญ่ และอยู่ใกล้ซอยเซ็นต์หลุยส์ ซึ่งจากการวิจัยพบว่าสาทรเป็นทำเลที่ผู้ที่กำลังจะซื้อคอนโดมิเนียมต้องการมากที่สุด เพราะอยู่ใจกลางเมือง และอยู่ใกล้ สิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งสถานีรถไฟฟ้าทางขึ้น-ลงทางด่วน สถานศึกษา สถาบันการเงิน และแหล่งช็อปปิ้ง จึงสะดวกสบายในการอยู่อาศัยและเดินทาง นอกจากนี้ บริเวณนี้ยังมีโครงการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา 4 แห่ง ของกรุงเทพมหานครบริเวณปลายถนนจันทร์ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปถนนเจริญนคร, บริเวณปลายถนนสี่พระยาข้ามไปเจริญนคร, ปลายถนนราชวงศ์ข้ามไปฝั่งธนบุรี และอีกแห่งหนึ่งบริเวณเกียกกาย ซึ่งจะช่วยให้การจราจรบริเวณสาทรคล่องตัวมากขึ้น ในขณะเดียวกันเมื่อเทียบราคาของ คอนโดมิเนียมในระดับเดียวกันและทำเลใกล้เคียงกัน ก็พบว่าโครงการเซ็นต์หลุยส์ แกรนด์ เทอเรส มีราคาไม่สูงนักเมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆ ในขณะที่การก่อสร้างคืบหน้าไปแล้ว ประมาณ 10% และคาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จใน เดือนสิงหาคม 2549 โดยได้รับสนับสนุนทางการเงินจาก ธนาคารกรุงศรีอยุธยา นายรัตนชัยกล่าว
สภาวะตลาดอาคารชุดในอดีตและอนาคตในอีก 3 ปี ข้างหน้า
ช่วงก่อนวิกฤต
ปี กรุงเทพฯ ต่างจังหวัด รวม
2538 44,168 28,67 72,838
2539 63,823 18,022 81,845
2540 47,067 25,353 72,420
ช่วงวิกฤต
ปี กรุงเทพฯ ต่างจังหวัด รวม
2541 21,046 14,054 35,100
2542 7,639 2,147 9,786
2543 5,750 1,426 7,176
2544 4,561 3,725 8,286
2545 5,896 784 6,680
ช่วงปัจจุบัน
ปี กรุงเทพฯ ต่างจังหวัด รวม
2546 7,115 2,739 9,854
ม.ค-พ.ค 2547 1,728 633 2,361
คาดการณ์ 3 ปีข้างหน้า
ปี กรุงเทพฯ ต่างจังหวัด รวม
2547 9,961 3,835 13,796
2548 16,282 5,370 21,652
2549 21,166 6,980 28,146
2550 27,516 9,074 36,590
หมายเหตุ: แหล่งที่มา กรมที่ดินรายงานจดทะเบียนอาคารชุดที่ส่งมายังกรมที่ดินเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2547
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
คุณอุษณีย์ ถาวรกาญจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์
บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด
โทร. 0 2354 3588 โทรสาร 0 2354 3590
E-mail: [email protected]จบ--