กรุงเทพฯ--3 พ.ย.--ธสน.
นายสถาพร ชินะจิตร กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) เปิดเผยผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ของปี 2547 ว่า ธสน. มีกำไรสุทธิจำนวน 125 ล้านบาท เทียบกับกำไรสุทธิ 61 ล้านบาทในไตรมาส 2 ที่ผ่านมาและกำไรสุทธิ 206 ล้านบาทในไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงและการสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น
สำหรับสินทรัพย์รวม ณ สิ้นเดือนกันยายน 2547 มีจำนวน 51,660 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 47,930 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2546 ยอดเงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2547 มีจำนวน 48,610 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.7 เมื่อเทียบกับ 43,129 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2546 โดยในไตรมาส 3 ยอดสินเชื่อดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ถึง 4,253 ล้านบาทหรือร้อยละ 9.6 เนื่องจากสินเชื่อที่อนุมัติไว้มีการเบิกใช้เงินกู้มากขึ้นกว่าเดิมมาก ก่อนที่ดอกเบี้ยจะปรับตัวสูงขึ้น ในด้านปริมาณการรับซื้อและเรียกเก็บเงินตามตั๋วส่งออก และการรับแจ้งประกันการส่งออกในช่วง 9 เดือนแรกปี 2547 มีมูลค่า 79,936 ล้านบาท และ 21,820 ล้านบาท ตามลำดับ เพิ่มขึ้นร้อยละ 55.6 และ 8.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2546
ณ สิ้นเดือนกันยายน 2547 ธสน. มียอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) เท่ากับ 4,834 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.9 ของยอดเงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับ เพิ่มขึ้นจาก 4,106 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2546 ซึ่งเท่ากับร้อยละ 9.5 และธนาคารมีอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง ณ สิ้นเดือนกันยายน 2547 เท่ากับร้อยละ 18.2
สำหรับผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี 2547 ธสน. มีกำไรสุทธิ 327 ล้านบาท ลดลง 124 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิ 451 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง เนื่องจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยลดลงและ ธสน. มีรายได้จากหนี้ตัดจำหน่ายได้รับคืนและหนี้สูญได้รับคืนน้อยกว่าปีที่แล้ว สำหรับการสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญในรอบ 9 เดือนแรกของปี 2547 มีจำนวน 671 ล้านบาท
กรรมการผู้จัดการ ธสน. กล่าวเพิ่มเติมว่าเมื่อเดือนสิงหาคม ธสน. ได้เปิดให้ “ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์“ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2271 0506 เพื่อให้บริการสอบถามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการใช้บริการต่างๆ ของ ธสน. ให้คำปรึกษาในการประกอบธุรกิจเบื้องต้น และให้คำแนะนำด้านเอกสารส่งออก รวมทั้งช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าในเบื้องต้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการเข้าถึงข้อมูลการบริการที่รวดเร็วและเชื่อถือได้
นอกจากนี้ เพื่อเสริมสร้างให้ผู้ส่งออกมีความรู้ความเข้าใจและความเชี่ยวชาญทางด้านเอกสารส่งออกและป้องกันปัญหาจากการถูกปฏิเสธการชำระเงินจากต่างประเทศ ธสน. ได้จัดโครงการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย โครงการอบรม Easy Export โครงการอบรมเครื่องมือการชำระเงินทางการค้าระหว่างประเทศ โครงการอบรมประกาศนียบัตรการจัดทำเอกสารส่งออก โครงการอบรมบริการประกันการส่งออก และในส่วนของการสนับสนุนโครงการครัวไทยสู่โลก ธสน. ได้จัดทำโครงการอบรมการจัดทำแผนธุรกิจเพื่อขอรับสินเชื่อสำหรับร้านอาหารไทยในต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนให้นักธุรกิจไทยที่มีความต้องการเปิดร้านอาหารไทยในต่างประเทศสามารถจัดทำแผนธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผู้ส่งออกและนักธุรกิจไทยที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ธสน.
เกี่ยวกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) เป็นสถาบันการเงินของรัฐที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการคลัง จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2536 ซึ่งกำหนดขอบเขตอำนาจให้ธนาคารสามารถทำธุรกิจทุกประเภทที่ธนาคารพาณิชย์ทำได้ ยกเว้นเพียงการรับฝากเงินจากประชาชนทั่วไป โดยมีวัตถุประสงค์ในการให้บริการทางการเงินเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกไทยและนักลงทุนไทยในต่างประเทศ และสนับสนุนการได้มาซึ่งเงินตราต่างประเทศของไทยหรือประหยัดเงินตราต่างประเทศ
ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักบริหาร
โทร. 0 2271 3700, 0 2278 0047, 0 2617 2111 ต่อ 1142 - 5--จบ--
- ๐๑:๓๒ EXIM BANK โชว์ศักยภาพ SFI แห่งแรกได้รับมาตรฐานสากล ISO 14064-1:2018 เดินหน้าบทบาท Green Development Bank สู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
- ๒๔ ธ.ค. EXIM BANK ชี้แนวโน้มเศรษฐกิจและส่งออกไทยปี 68 แตะระดับ 3% เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมทางการเงิน ยกระดับธุรกิจไทยแข่งขันได้ในเวทีโลกอย่างยั่งยืน
- ๒๔ ธ.ค. EXIM BANK คว้ารางวัล Bank of The Year 2024 สุดยอดธนาคารแห่งปี 2567