กรุงเทพฯ--8 พ.ย.--ก.ล.ต.
ก.ล.ต. ดำเนินการลงโทษทางวินัยแก่นายชาญชัย กุลถาวรากร อดีตผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ กรณีไม่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขระบบการปฏิบัติงานของบริษัทตามการสั่งการของ ก.ล.ต. และไม่ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแล ขณะดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารบริษัทหลักทรัพย์ เอเพกซ์ จำกัด กล่าวคือ
1. บริษัทมีโครงสร้างการบริหารงานในลักษณะที่กรรมการทุกท่านเป็นผู้บริหารบริษัทที่ปฏิบัติงานเต็มเวลา ซึ่งไม่เอื้อต่อการสอบยันการปฏิบัติงาน (check and balance) โดยผู้ปฏิบัติงานที่ถูกหน่วยงาน compliance ตรวจสอบ เป็นบุคคลเดียวกับผู้ที่หน่วยงาน compliance รายงานผลการตรวจสอบ ทำให้หน่วยงาน compliance ขาดความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่ง ก.ล.ต. ได้แจ้งให้บริษัทแก้ไขในประเด็นดังกล่าวแล้ว ต่อมา ถึงแม้ว่าบริษัทได้มีการปรับปรุงโครงสร้างในเรื่องกรรมการของบริษัท แต่หน่วยงาน compliance ก็ยังคงรายงานผลการตรวจสอบต่อนายชาญชัย (ซึ่งดำรงตำแหน่งทั้งประธานกรรมการบริหาร และประธานกรรมการ) เพียงผู้เดียว
2. บริษัทมิได้มีการบันทึกเทปการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ทางโทรศัพท์ให้ครบทุกสาย ซึ่งเป็นประเด็นที่ ก.ล.ต. ได้เคยแจ้งให้มีการดำเนินการให้ครบถ้วน
3. บริษัทยินยอมให้บุคคลที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเคยมีคำสั่งให้พักใบอนุญาตการเป็น
เจ้าหน้าที่การตลาด เนื่องจากมีพฤติกรรมการทำงานที่ส่อไปในทางไม่สุจริตซึ่งเป็นลักษณะต้องห้าม มาเป็นผู้บริหารของบริษัท และมิได้รายงานการปฏิบัติฝ่าฝืนดังกล่าวต่อ ก.ล.ต.
จากพฤติกรรมดังกล่าวพิจารณาได้ว่า นายชาญชัยไม่ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดและไม่ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแล เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยขาดจรรยาบรรณหรือขาด
มาตรฐานในการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ซึ่งเข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามอย่างอื่นของผู้บริหารของบริษัทหลักทรัพย์ ตามนัยข้อ 4 (12) ของประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ กธ/น. 13/2542 เรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามอย่างอื่นของผู้บริหารของบริษัทหลักทรัพย์ ลงวันที่ 12 มิถุนายน 2542 ก.ล.ต. จึง
ดำเนินการลงโทษโดยการภาคทัณฑ์และเปิดเผยต่อสาธารณชน ทั้งนี้ ภายในระยะเวลา 3 ปีนับจากวันที่
4 พฤศจิกายน 2547 หากนายชาญชัยมีพฤติกรรมอันเข้าข่ายเป็นลักษณะต้องห้ามของการเป็นผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ตามมาตรา 103 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และประกาศที่เกี่ยวข้อง ก.ล.ต. จะพิจารณาดำเนินการตามควรแก่กรณีต่อไป--จบ--