กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมทุ่ม 33 ล้าน จัดตั้งศูนย์บริการร่วมสารสนเทศสิ่งแวดล้อมระดับภาค

กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นายสุวัช สิงหพันธุ์ อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า จากที่กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมได้ดำเนินการจัดทำฐานข้อมูลสารสนเทศเชิงพื้นที่(GIS) ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมระดับจังหวัด เพื่อให้บริการกับหน่วยงานและจังหวัดต่างๆ
ได้ใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของจังหวัด ซึ่งกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ได้พัฒนาการให้บริการด้วยการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมาสนับสนุนบริการดังกล่าว โดยจัดทำระบบเผยแพร่และให้บริการผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ท “ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจในการให้บริการข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม ต้องมีการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการอย่างสม่ำเสมอ จึงได้ดำเนินโครงการจัดตั้งศูนย์บริการร่วมสารสนเทศสิ่งแวดล้อมนำร่องระดับภาคขึ้น
เพื่อให้มีศูนย์บริการในระดับภูมิภาคที่จะเผยแพร่และให้บริการข้อมูลสารสนเทศเชิงพื้นที่ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งข้อมูลสื่อสิ่งแวดล้อม และสารสนเทศด้านสิ่งแวดล้อมในรูปแบบ Digital library ทั้งนี้ เนื่องจากข้อมูลด้านสารสนเทศเชิงพื้นที่ (GIS) และไฟล์ข้อมูลสื่อบางชนิด เช่น สื่อวิดีทัศน์นั้น จะมีข้อมูลขนาดใหญ่ทำให้การบริการผ่านเครือข่ายจากส่วนกลางเป็นไปด้วยความล่าช้า และผู้ใช้บริการจะไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร การตั้งศูนย์บริการในระดับภูมิภาคนี้จะสามารถช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้รับบริการที่อยู่ในภูมิภาคต่างๆ ได้รวดเร็วขึ้น” อธิบดีฯ กล่าว
นอกจากนี้ศูนย์บริการฯ ดังกล่าวยังจะทำหน้าที่เป็นศูนย์รายงานสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมจากภูมิภาคเข้าสู่ส่วนกลาง โดยผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ทมายังหน่วยงานส่วนกลาง ณ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และกลุ่มภารกิจด้านสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสำหรับการจัดตั้งศูนย์บริการร่วมสารสนเทศสิ่งแวดล้อมนำร่องระดับภาคนี้ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมมือกับสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค ซึ่งเป็นหน่วยงานในภูมิภาคที่มีหน้าที่จัดทำและพัฒนาระบบฐานข้อมูลสารสนเทศสิ่งแวดล้อมภาค จัดทำรายงานสถานการณ์สิ่งแวดล้อมภาค และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ เพื่อดำเนินการจัดตั้งศูนย์บริการฯ ดังกล่าว ณ สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคทั้ง 16 แห่ง โดยในปี พ.ศ. 2547 นี้ จะดำเนินการพัฒนาระบบเผยแพร่และให้บริการข้อมูลเชิงพื้นที่ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายสาขาผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ท
เพื่อติดตั้งในสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 5 ภูมิภาคนำร่อง คือ สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 3 จ.พิษณุโลก , ภาคที่ 8 จ.ราชบุรี, ภาคที่ 11 จ.นครราชสีมา, ภาคที่ 13 จ.ชลบุรี และภาคที่ 16 จ.สงขลา โดยใช้งบประมาณดำเนินการประมาณ 9.9 ล้านบาทและในปี พ.ศ.2548 จะดำเนินการติดตั้งระบบเผยแพร่และให้บริการฯ ในสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคอีกจำนวน 7 แห่ง โดยใช้งบประมาณราว 12.3 ล้านบาท จากนั้นจะดำเนินการในสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่เหลืออีก 4 แห่งในปี พ.ศ. 2549 โดยใช้งบประมาณราว 10 ล้านบาท--จบ--