ปพร. ชาติ กำหนดมาตรการจัดหาน้ำแก้วิกฤติภัยแล้งเร่งด่วน

กรุงเทพฯ--19 พ.ย.--ปภ.
ปพร. ชาติ กำหนดมาตรการรองรับวิกฤติภัยแล้งเร่งด่วน โดยให้จัดตั้งศูนย์แจกจ่ายน้ำประจำหมู่บ้าน เร่งหาแหล่งน้ำต้นทุนสำรอง สำหรับทำน้ำประปา หากวิกฤติต้องกำหนดเวลาปิด — เปิดน้ำ วางแผนการจัดน้ำเพื่อการเกษตร จัดหาแหล่งน้ำเพิ่มเติม กำหนดให้มีการส่งเสริมอาชีพแก่ผู้ประสบภัยแล้ง
นายโภคิน พลกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานกรรมการป้องกันภัย ฝ่ายพลเรือน กล่าวในการประชุม ปพร. ชาติ ครั้งที่ 3/2547 ว่า สถานการณ์ความแห้งแล้งในปีนี้เกิดขึ้นเร็วและรุนแรง ทำให้แหล่งน้ำต่างๆ มีปริมาณน้ำคงเหลือน้อย ซึ่งได้คาดการณ์ว่าสถานการณ์ความแห้งแล้งจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยาวนาน ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม 2548 ที่ประชุม ปพร.ชาติ จึงได้กำหนดมาตรการเร่งด่วนเพื่อรองรับความแห้งแล้งเพิ่มเติม ดังนี้ ด้านการจัดหาน้ำอุปโภคบริโภค จะจัดตั้งศูนย์แจกจ่ายน้ำประจำหมู่บ้าน ณ โรงเรียน วัด หรือสถานที่อื่นๆ ที่เหมาะสม โดยมอบหมายให้มีผู้ทำหน้าที่ ควบคุม ดูแลการแจกจ่ายน้ำ ให้เป็นไปอย่างทั่วถึง พร้อมประเมินปริมาณแหล่งน้ำต้นทุนที่ใช้ในการผลิตน้ำประปา ถ้าไม่เพียงพอให้เร่งหาแหล่งน้ำต้นทุนสำรอง หากปริมาณน้ำต้นทุนอยู่ในขั้นวิกฤติให้วางแผนการจัดสรรปันส่วนน้ำไว้ล่วงหน้า โดยประสานกับสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาคในพื้นที่ให้พิจารณากำหนดเวลาเปิด — ปิดน้ำประปา ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด ตลอดจนให้จังหวัดเร่งจัดหาแหล่งน้ำเพิ่มเติม โดยเน้นการขุดบ่อบาดาล บ่อน้ำตื้น และระบบประปาหมู่บ้าน ส่วนการจัดหาน้ำเพื่อการเกษตร ให้มีการบูรณาการวางแผนการจัดสรรน้ำ ให้เพียงพอต่อการใช้สอย ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชอายุสั้นที่ใช้น้ำน้อย งดการปลูกข้าวนาปรัง และพืชอื่นๆ ในพื้นที่ห้ามปลูก
นายสุธรรม แสงประทุม รมช.มหาดไทย กล่าวว่า เพื่อป้องกันปัญหาสังคมจากภัยแล้ง จะส่งเสริม อาชีพแก่ประชาชน และขอความร่วมมือผู้รับจ้างโครงการก่อสร้างต่างๆ ให้จ้างแรงงานจากประชานในหมู่บ้านที่ว่างงาน เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ ตลอดจนได้ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เพิ่มความเข้มงวด ในการป้องกันและปราบปรามโจรผู้ร้ายในช่วงฤดูแล้ง ที่ทำให้มีการลักขโมยทรัพย์สินเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนกำชับให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บูรณาการและประสานการปฏิบัติกับผู้ว่าราชการจังหวัด ในการสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือพื้นที่ประสบความแห้งแล้ง โดยเฉพาะการจัดหาน้ำอุปโภค บริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร สำหรับแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยแล้ง--จบ--