สส. จัดโครงการรณรงค์ลดขยะชุมชนจากครัวเรือนและโรงเรียน

จันทร์ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๐๐๔ ๑๒:๐๔
กรุงเทพฯ--22 พ.ย.--กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นายสุวัช สิงหพันธุ์ อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ปัญหาการจัดการขยะมูลฝอยในปัจจุบัน คือ การขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน และการจัดการขยะในแต่ละพื้นที่ยังมีความแตกต่างกันทั้งลักษณะกิจกรรมและนโยบายของพื้นที่ รวมทั้งมีข้อจำกัดในการกระตุ้นให้เกิดการดำเนินการอย่างจริงจัง ดังนั้นการสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการจัดการขยะมูลฝอยชุมชนของตนเองพร้อมกันในพื้นที่ทั้งจังหวัด จะทำให้เกิดการจัดการขยะมูลฝอยอย่างเป็นระบบและเป็นรูปธรรม
“แนวทางดังกล่าวนั้นเชื่อมโยงกับนโยบายของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้เกิดความร่วมมือกันในการดำเนินการด้านขยะมูลฝอยของเทศบาลต่างๆ ตลอดจนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการควบคุม และกำจัดมลภาวะในท้องถิ่นตนเอง รวมทั้งให้ประชาชนลดการทิ้งขยะอินทรีย์ลง โดยสนับสนุนให้นำไปใช้ประโยชน์ เช่น
แยกขยะขาย หรือทำปุ๋ยชีวภาพเพื่อลดการใช้ปุ๋ยเคมี นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับนโยบายของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ต้องการทำความเข้าใจกับประชาชนให้มีจิตสำนึก และมีความละอายในการทิ้งขยะ รวมทั้งดูแลไม่ให้มีผู้ทิ้งขยะที่ขาดความรับผิดชอบ ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของกระทรวงที่จะต้องทำให้เมืองไทยสะอาดได้มาตรฐานโลก ตามแนวคิดวันสิ่งแวดล้อมไทยในปี 2547 นี้ คือ Clean and Green Thailand” อธิบดีกล่าว
ดังนั้น กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม จึงได้ดำเนินโครงการรณรงค์การจัดการครัวเรือนและโรงเรียนเพื่อลดขยะชุมชนขึ้น โดยจัดกิจกรรมพัฒนาศักยภาพบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งจัดทำแผนปฏิบัติการจัดการขยะมูลฝอยเพื่อนำไปปฏิบัติในพื้นที่ ตลอดจนจัดกิจกรรมรณรงค์ลดและแยกขยะ และกิจกรรมรณรงค์การทำปุ๋ยหมักจากขยะอินทรีย์
“ในการดำเนินงานโครงการนี้ จะมีการแต่งตั้งคณะทำงานระดับจังหวัดเพื่อกำหนดกรอบและแนวทางการดำเนินงาน รวมทั้งจัดอบรมบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำแผนการจัดการขยะมูลฝอยชุมชนด้านการลดขยะและแยกขยะของแต่ละองค์กรฯ แล้วนำเสนอให้กับประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อทำบันทึกข้อตกลงกับผู้ว่าราชการจังหวัด ก่อนที่จะดำเนินการตามแผนที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละแห่งกำหนดไว้”สำหรับพื้นที่เป้าหมายที่กรมฯ กำหนดไว้เพื่อดำเนินการ คือ ลุ่มน้ำปิงในเขต จ.เชียงใหม่ และ จ.ลำพูน, ลุ่มน้ำท่าจีนในเขต จ.นครปฐม จ.สุพรรณบุรี จ.สมุทรสาคร, ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาในเขต จ.สงขลา และจ.นครศรีธรรมราช รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ปี 2548-2551 และใช้งบประมาณทั้งสิ้น 68 ล้านบาท--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version