หมุ่ยฟ้าเข้าทุ่มนี้ ให้อยู่พื้นที่ปลอดภัยจนกว่าพายุสงบ

ศุกร์ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๐๐๔ ๑๐:๔๔
กรุงเทพฯ--26 พ.ย.--ปภ.
นายสุนทร ริ้วเหลือง อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับ สถานการณ์พายุโซนร้อน “หมุ่ยฟ้า” ว่า มีการเคลื่อนตัวเร็วขึ้น ด้วยความเร็วประมาณ 30 กม./ ชม. แต่ได้ลดระดับความรุนแรงลงแล้ว โดยส่วนหน้าของพายุ จะเข้าสู่ประเทศไทย ที่ อ.ขนอม เวลาประมาณ 19.00 น. โดยจุดศูนย์กลางของพายุจะเคลื่อนเข้าสู่บริเวณรอยต่อของ จ.นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี ประมาณ 23.00 น. ซึ่งพายุลูกนี้มีรัศมีกินพื้นที่ประมาณ 200 กม. ส่งผลให้จังหวัดต่างๆ ในพื้นที่ภาคใต้ตั้งแต่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ลงไป เกิดฝนตกหนัก ถึง หนักมาก ลมกระโชกแรง โดยขณะนี้ จ.นครศรีธรรมราช ได้อพยพราษฎรในพื้นที่เสี่ยงภัยตามแนวชายฝั่ง 225 กม. รวม 18 ตำบล 51 หมู่บ้าน ไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยแล้ว โดยเฉพาะ ต.แหลมตะลุมพุก อ. ปากพนัง มีหมู่บ้านเสี่ยงภัย 3 หมู่บ้าน ได้อพยพประชาชนรวม 4,222 คน 844 ครัวเรือน ไปอยู่ที่ปลอดภัยแล้ว ส่วนที่ จ.สุราษฎร์ธานี ได้แจ้งเตือนให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว อ.เกาะสมุย อ.เกาะพงัน ห้ามออกจากชายฝั่งเด็ดขาด และให้เตรียมอพยพและขนย้ายทรัพย์สินไปอยู่ในที่ปลอดภัย สำหรับ จ. ชุมพร ได้แจ้งให้งดการเดินเรือทุกประเภทในอ่าวไทย จนกว่าคลื่นลมจะมีกำลังอ่อนลง และประกาศให้ทุกพื้นที่เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ขณะที่ จ. สงขลา ได้แจ้งเตือนให้ประชาชนอพยพไปยังจุดรองรับในแต่ละตำบลแล้ว ส่วนจังหวัดอื่นๆ ในภาคใต้ ยังไม่มีรายงานฝนตกแต่ก็ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจช่วยเหลือประชาชน และระดมความร่วมมือจากหน่วยงาน เครือข่ายในพื้นที่ เพื่อปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนแล้ว
นายสุนทร กล่าวต่อไปว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้สั่งการให้ ศูนย์ป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์, เขต 11 สุราษฎร์ธานี และเขต 12 สงขลา เตรียมพร้อมทั้งกำลังคน วัสดุ อุปกรณ์ เรือท้องแบน และเครื่องจักรกล เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยทันทีที่เกิดเหตุการณ์ สำหรับงบประมาณในการช่วยเหลือ ผู้ว่าราชการจังหวัด สามารถอนุมัติเงินทดรองราชการ วงเงิน 50 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ หากไม่เพียงพอสามารถขอรับการสนับสนุนเพิ่มเติมได้จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สุดท้ายนี้ ขอให้ประชาชนเตรียมตะเกียง ไฟฉาย ไม้ขีดไฟ สำรองอาหาร น้ำสะอาด อุปกรณ์หุงต้ม และปิดประตู หน้าต่าง ให้แน่นหนา หลังจากพายุสงบแล้วประมาณ 3 ชั่วโมง จึงออกจากบ้านได้ แม้ว่าศูนย์กลางพายุจะผ่านพ้นไปแล้ว อาจมีฝนตกลมแรงอีกระลอก ประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง จึงขอให้ประชาชนอยู่ในบ้านหรือบริเวณที่ปลอดภัยไว้ก่อน--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ