ไอดีซี ชี้ ซีเอ ครองผู้นำระดับโลกด้านซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัย และป้องกันช่องโหว่ ตามติดอีกหนึ่งตำแหน่งสุดยอดผู้นำด้านซอฟต์แวร์ไอเอเอ็ม

ศุกร์ ๐๓ ธันวาคม ๒๐๐๔ ๑๐:๔๐
กรุงเทพฯ--3 ธ.ค.--เพนเนอร์-แมดิสัน
ไอดีซี ชี้ ซีเอ ครองผู้นำระดับโลกด้านซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัย และป้องกันช่องโหว่ ตามติดอีกหนึ่งตำแหน่งสุดยอดผู้นำด้านซอฟต์แวร์ไอเอเอ็ม
บริษัท คอมพิวเตอร์ แอสโซซิเอทส์ อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ หรือ ซีเอ ผู้นำด้านซอฟต์แวร์บริหารจัดการองค์กรระดับโลก ได้รับการยกย่องจากสำนักข่าว ไอดีซี (IDC) ให้เป็นสุดยอดผู้นำในตลาดโลกด้านซอฟต์แวร์ระบบรักษาความปลอดภัยและป้องกันช่องโหว่ของระบบ (Security and Vulnerability Management หรือ SVM) จากผลสำรวจตลาดซอฟต์แวร์ทั่วโลกประจำปี พ.ศ. 2546 โดย ซีเอสามารถครองส่วนแบ่งตลาดซอฟต์แวร์ดังกล่าวได้ 7.8% และทำรายได้ถึงกว่า 94 ล้านเหรียญสหรัฐ
ไอดีซีคาดการณ์ว่า รายได้จากตลาดซอฟต์แวร์ระบบรักษาความปลอดภัยและป้องกันช่องโหว่ของระบบ (SVM) ในตลาดซอฟต์แวร์ทั่วโลกจะพุ่งสูงถึง 3,400 ล้านเหรียญสหรัฐในปี พ.ศ. 2551 โดยคิดจากอัตราการเติบโตเฉลี่ยโดยรวมที่ 20% ต่อปี ตามที่ปรากฏในรายงาน “ทิศทางตลาดระบบรักษาความปลอดภัยและการป้องกัน
ช่องโหว่ของระบบจากทุกภูมิภาคของโลกในปี พ.ศ. 2547 — พ.ศ. 2551 และส่วนแบ่งทางการตลาดของ
ผู้จัดจำหน่ายแต่ละราย ในปี พ.ศ. 2546: สิ้นสุดยุคระบบรักษาความปลอดภัย 3A ส่วนที่ 2” (Worldwide Security and Vulnerability Management 2004 — 2008 Forecast and 2003 Vendor Shares: The Death of Security 3A, Part II)
นับเป็นปีแรกที่ ไอดีซี ได้แยกสำรวจตลาดระบบรักษาความปลอดภัยออกเป็น 2 ส่วน คือ ตลาดระบบรักษาความปลอดภัยและป้องกันช่องโหว่ของระบบ หรือ เอสวีเอ็ม (Security and Vulnerability Management - SVM) และระบบบริหารจัดการพิสูจน์ตัวตนและเข้าถึงข้อมูลระบบ (Identity and Access Management - IAM) ซึ่งจากเดิมที่ไอดีซีเรียกการสำรวจตลาดซอฟต์แวร์ลักษณะนี้ว่า ตลาดซอฟต์แวร์บริหารจัดการการอนุมัติและพิสูจน์ตัวตน หรือ “3A” (Administration, Authorization and Authentication) ซึ่งเป็นตลาดที่ ซีเอ ครองตำแหน่งผู้นำตลอดสามปีที่ผ่านมา โดยก่อนหน้าการประกาศให้ ซีเอ ครองความเป็นที่หนึ่งในซอฟต์แวร์เอสวีเอ็ม ไอดีซีได้ประกาศให้ ซีเอ เป็นที่หนึ่งในตลาดซอฟต์แวร์ ไอเอเอ็ม ประจำปี พ.ศ. 2546 ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดที่สูงถึง 15% และทำรายได้สูงกว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐ
นาย แอนโทนี่ ลิม ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ระบบรักษาความปลอดภัย ประจำภูมิภาคเอเชียใต้บริษัท คอมพิวเตอร์ แอสโซซิเอทส์ อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ กล่าวว่า “รายงานจาก ไอดีซี คือสิ่งที่พิสูจน์และยืนยันได้ว่า ซีเอ ได้ยกระดับจากความเป็นผู้นำระดับโลกด้านระบบรักษาความปลอดภัยในด้านการพิสูจน์ตัวตนและ
เข้าถึงข้อมูลระบบ หรือ ไอเอเอ็ม มาสู่การเป็นผู้นำระดับโลกด้านการและจัดหาโซลูชั่นระบบรักษาความปลอดภัยและป้องกันช่องโหว่ของระบบ โซลูชั่น อีทรัสต์ ของเราประกอบด้วยฟังก์ชันการทำงานอันทรงประสิทธิภาพ
คุณสมบัติเฉพาะตัว และความสามารถในการทำงานร่วมกับระบบต่างๆ สำหรับองค์กรที่ต้องเผชิญกับภาวะกดดันมากขึ้นในการปกป้องโครงสร้างของระบบคอมพิวเตอร์ที่สำคัญให้รอดพ้นจากภัยคุกคามที่เพิ่มจำนวนและทวีความรุนแรงและจู่โจมในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น”
ตลาดระบบรักษาความปลอดภัยและการจัดการเรื่องช่องโหว่ของระบบที่อยู่ภายในขอบเขตการสำรวจของ ไอดีซี ประกอบด้วย การสร้างความสัมพันธ์ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับระบบ (Event Correlation) การรวมบันทึกเหตุการณ์ของระบบ (Log Aggregation) อินเตอร์เฟซสำหรับการควบคุมระบบแบบรวมเป็นหนึ่ง (Consolidated Consoles) การบริหารจัดการช่องโหว่ (Vulnerability Management) การบริหารจัดการ
การซ่อมแซมช่องโหว่ของระบบ (Patch Management) การบริหารจัดการและบังคับใช้นโยบายของระบบ และการสืบค้นต้นตอของนักเจาะระบบ จากรายงานของ ไอดีซี ปัจจัยผลักดันที่มีความสำคัญต่อตลาดระบบรักษาความปลอดภัยและป้องกันช่องโหว่ของระบบ ประกอบด้วย ความสามารถในการประสานการทำงานของระบบรักษาความปลอดภัยกับระบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เข้ากับระบบบริหารจัดการเครือข่าย การรับประกันการปฏิบัติงานได้อย่างต่อเนื่องสูงสุดของเครือข่ายและแอพพลิเคชัน การลดต้นทุนการดูแลระบบ เพื่อให้มองเห็นและเข้าใจสภาพแวดล้อมของระบบไอทีเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งช่วยให้ง่ายต่อการจัดการและมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย
ระบบรักษาความปลอดภัย อีทรัสต์ และโซลูชั่นการบริหารจัดการช่องโหว่ของ ซีเอ สามารถค้นหาและขจัดช่องโหว่ที่อาจก่อให้เกิดภยันตรายต่อระบบได้โดยอัตโนมัติ และสามารถอำนวยความสะดวกในการวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้นทันที (เรียลไทม์) รวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามลำดับเวลา ด้วยความสามารถอันรอบด้านดังกล่าว ทำให้องค์กรไอทีสามารถป้องกันองค์กรจากภัยคุกคามต่างๆ ได้ล่วงหน้า ขณะที่ช่วยลดระยะเวลาและขั้นตอนในการติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยตามวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุดได้ โซลูชั่นการบริหารจัดการระบบรักษาความปลอดภัย อีทรัสต์ สำหรับตลาดองค์กรประกอบด้วย
eTrust Security Command Center — สำหรับการค้นหาและจัดระดับความสำคัญของข้อมูลในระบบรักษาความปลอดภัยที่สัมพันธ์กันเพื่อให้การจัดการความเสี่ยงต่อระบบรักษาความปลอดภัยแบบเรียลไทม์มี
ประสิทธิภาพผ่านเครื่องมือสั่งการและศูนย์ควบคุมจากศูนย์กลาง
eTrust Vulnerability Manager — สำหรับการปกป้องโครงสร้างระบบไอทีอย่างเข้มแข็งจากการโจมตีผ่าน
ช่องโหว่ที่คุกคามเสถียรภาพขององค์กร
eTrust Network Forensics — สำหรับการสร้างความชัดเจนให้ปรากฏว่า สินทรัพย์ขององค์กรได้รับผลอย่างไรจากการใช้งานผ่านระบบเครือข่าย การขโมยข้อมูลจากภายในองค์กรเอง และฝ่าฝืนนโยบาย
การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลและระบบรักษาความปลอดภัย
eTrust Audit — สำหรับการเก็บข้อมูลที่ใช้เพื่อการตรวจสอบรักษาความปลอดภัยและระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ รวมถึงการกรองข้อมูลดังกล่าวเพื่อเฝ้าดูเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากจุดๆ เดียวและทำรายงานแสดงภาพรวมของข้อมูล
eTrust Policy Compliance — สำหรับการประเมินความเสี่ยงและระบุจุดด้อยอันเกิดจากการใช้นโยบายด้านระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
eTrust 20/20 — สำหรับการเฝ้าระวังระบบรักษาความปลอดภัยด้านไอทีสำหรับทั้งทางอุปกรณ์รักษา
ความปลอดภัย และระบบรักษาความปลอดภัยของระบบไอที เพื่อให้การตรวจจับพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์ดำเนินไปได้โดยอัตโนมัติอย่างรวดเร็ว และสร้างรูปแบบการจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันท่วงที
นาย ไบรอัน เบิร์ก ผู้จัดการฝ่ายวิจัยผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยของ ไอดีซี กล่าวว่า “นับวัน ลูกค้ายิ่งต้องการลดความยุ่งยากซับซ้อนในการตรวจสภาพการทำงานของระบบและจัดการโซลูชั่นด้านความปลอดภัยหลายๆ โซลูชั่น และมีประสิทธิภาพในการป้องกันภัยเพิ่มขึ้นด้วย ในขณะเดียวกัน โซลูชั่นด้านการรักษาความปลอดภัยและป้องกันช่องโหว่ที่สามารถบริหารจัดการเทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยต่างๆ ได้จากเครื่องมือควบคุมกลาง พร้อมความสามารถบันทึกเหตุการณ์ การจัดระดับความสำคัญของเหตุการณ์ การซ่อมแซม และฟื้นฟูระบบให้เข้าสู่ภาวะปกติ รวมถึงการแยกภัยบุกรุกที่เกิดขึ้นจริงออกจากการเตือนภัยที่ผิดพลาดเป็นโซลูชั่นซึ่งเป็นที่ต้องการเป็นอย่างยิ่งสำหรับองค์กรทุกระดับ
ข้อมูลเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ แอสโซซิเอทส์
บริษัท คอมพิวเตอร์ แอสโซซิเอทส์ อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ บริษัทซอฟต์แวร์บริหารจัดการที่ใหญ่ที่สุดของโลกนำเสนอซอฟต์แวร์และบริการที่ครอบคลุมการปฏิบัติการต่างๆ (Operations), การรักษาความปลอดภัย (Security), การจัดเก็บข้อมูล (Storage) รวมทั้งการบริหารจัดการวงจรการทำงานและการบริการ (Life Cycle and Service Management) เพื่อการพัฒนา ผลการปฏิบัติงาน ความน่าเชื่อถือ และประสิทธิภาพของสภาพแวดล้อมด้านไอทีภายในองค์กร ซีเอก่อตั้งในปี 1976 สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เลขที่ 1 คอมพิวเตอร์ แอสโซซิเอทส์ พลาซ่า, ไอแลนด์เดีย, นิวยอร์ค 11749 และให้บริการแก่องค์กรต่างๆ ในกว่า 140 ประเทศทั่วโลก รายละเอียดเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชมที่ http://ca.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
คุณปริญดา นิลทจันทร์, คุณฑิตยา นาคทอง, และคุณสินีนาฏ ใฝสุข
บริษัท เพนเนอร์-แมดิสัน จำกัด
โทรศัพท์ 0-2716-5246 ต่อ 120, 125, และ 119 โทรสาร 0-2716-5250
อีเมล์ [email protected], [email protected], and [email protected]จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ