ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศหุ้นกู้อนุพันธ์ชุดที่สองและสามภายใต้โครงการออกหุ้นกู้อนุพันธ์ของธนาคารดอยซ์แบงก์ เอจี

จันทร์ ๑๓ ธันวาคม ๒๐๐๔ ๑๔:๕๙
กรุงเทพฯ--13 ธ.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศ (National rating) ระยะยาวของหุ้นกู้อนุพันธ์อายุ 6 เดือนที่มีผลตอบแทนสะสมอ้างอิงกับอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลที่มีอายุ 6 เดือน มูลค่า 200 ล้านบาท และ หุ้นกู้อนุพันธ์อายุ 2 ปีที่มีผลตอบแทนสะสมอ้างอิงกับดัชนี SET 50 มูลค่า 171 ล้านบาท ที่จะออกโดยธนาคารดอยซ์แบงก์ เอจี สาขากรุงเทพฯ (DB) ที่ระดับ ‘AAA(tha)’แนวโน้มมีเสถียรภาพ หุ้นกู้อนุพันธ์ชุดที่ 2 และ 3 นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการออกหุ้นกู้อนุพันธ์ของ DB ซึ่งมีวงเงินรวมทั้งสิ้น 25 พันล้านบาท โดยหุ้นกู้อนุพันธ์ที่จะออกภายใต้โครงการนี้อาจรวมถึง หุ้นกู้อนุพันธ์อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยน (Currency-linked notes) หุ้นกู้อนุพันธ์อ้างอิงกับหุ้น (Equity-linked notes) และหุ้นกู้อนุพันธ์อ้างอิงกับดัชนี (Index-linked notes)
ผู้ลงทุนควรทราบว่า อันดับเครดิตของหุ้นกู้อนุพันธ์นี้เป็นการวิเคราะห์ถึงความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกหุ้นกู้อนุพันธ์เท่านั้น และไม่ได้ครอบคลุมถึงความเสี่ยงที่เกิดจากภาวะตลาดหรือความเสี่ยงของผลตอบแทน โดยผลตอบแทนขั้นต่ำได้ถูกกำหนดไว้ที่ศูนย์ อันดับเครดิตของหุ้นกู้อนุพันธ์นี้อยู่บนพื้นฐานของอันดับเครดิตของ DB เนื่องจากธนาคารมีภาระผูกพันในการจ่ายเงินต้นเต็มจำนวน
อันดับเครดิตของหุ้นกู้อนุพันธ์สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของอันดับเครดิตสากลของ DB ที่ ‘AA-’ (AA ลบ)/‘F1+’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ อันดับเครดิตของ DB นี้สูงกว่า อันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินในประเทศ (International Local Currency Rating) ของประเทศไทยซึ่งอยู่ที่ ‘A-’ (A ลบ) แนวโน้มเป็นบวก อยู่ 3 อันดับ จึงส่งผลให้อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้อนุพันธ์นี้เท่ากับอันดับเครดิตภายในประเทศของรัฐบาลไทยซึ่งอยู่ที่ ‘AAA(tha)’
อันดับเครดิตสากลของ DB สะท้อนถึงเครือข่ายที่ครอบคลุมในทุกภูมิภาคของโลก โครงสร้างรายได้ที่มีการกระจายตัวที่ดี และระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่งของธนาคาร รายได้ที่ดีอย่างสม่ำเสมอจากธุรกิจตราสารหนี้และจากการให้บริการบริหารสินทรัพย์เป็นปัจจัยสนับสนุนให้อันดับเครดิตสากลของ DB คงอยู่ในช่วง ‘AA’ ถึงแม้ว่าจะมีการลดลงของกำไรจากการดำเนินงาน สืบเนื่องจากการปรับโครงสร้าง การกันสำรองหนี้สูญ ขาดทุนจากการลงทุนในหุ้น และผลกำไรที่ยังคงอ่อนแอของสาขาในประเทศเยอรมันนีซึ่งคิดเป็นเพียง 16% ของผลกำไรรวมก่อนภาษีในไตรมาส 1 ปี 2547 ถึงแม้ว่าผลการดำเนินงานของ DB ในประเทศเยอรมันนีจะปรับตัวดีขึ้นบ้างแล้วก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจของประเทศเยอรมันนีที่ยังคงไม่แข็งแกร่ง อาจส่งผลทางลบต่อผลการดำเนินงานของ DB ได้
ธุรกิจวาณิชธนกิจเป็นธุรกิจหลักในการทำกำไรของธนาคาร DB มีข้อได้เปรียบในด้านการมีชื่อเสียงและฐานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งทั่วโลก ซึ่งทำให้ธนาคารสามารถรองรับความผันผวนของตลาดได้มากกว่าคู่แข่ง ในขณะเดียวกัน ผลกำไรจากธุรกิจการให้บริการลูกค้าส่วนบุคคลและการบริหารสินทรัพย์ มีการพัฒนาดีขึ้นเป็นลำดับหลังจากการปรับโครงสร้างทางธุรกิจในส่วนของการบริหารสินทรัพย์ และธุรกรรมธนาคารพาณิชย์สำหรับลูกค้าส่วนบุคคลและลูกค้ารายย่อย
ธุรกรรมธนาคารพาณิชย์สำหรับลูกค้าองค์กรของ DB ได้ถูกกระทบจากการที่มีอัตราการผิดนัดชำระหนี้โดยบริษัทต่างๆ ที่สูงและจากการที่การปล่อยสินเชื่อของ DB มีการกระจายที่ไม่เพียงพอในปี 2545 ระดับการกันสำรองหนี้สูญได้ลดลงในปี 2546 แต่ยังคงอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ระดับการกันสำรองหนี้สูญคาดว่าจะลดลงต่อเนื่องในปี 2547 DB มีความพยายามอย่างสูงในการลดระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระดับประมาณ 4% ของสินเชื่อทั้งหมด รวมถึงพยายามลดปริมาณสินเชื่อที่ให้กับลูกค้ารายใหญ่บางรายเพื่อกระจายความเสี่ยง ระบบการจัดการความเสี่ยงทางด้านสินเชื่อที่มีประสิทธิภาพ ทำให้มั่นใจได้ว่าได้มีการกันสำรองหนี้สูญอย่างเพียงพอสำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ความเสี่ยงที่เกิดจากภาวะตลาดได้มีการควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด โดยธุรกรรมการค้าหลักทรัพย์ส่วนใหญ่จะมุ่งเน้น การซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อลูกค้าเป็นหลักมากกว่าการซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อธนาคารเอง ระดับเงินกองทุนของ DB ยังคงแข็งแกร่ง ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นที่ 1 จะยังคงอยู่ในระดับที่ผู้บริหารของธนาคารตั้งเป้าไว้ ที่ 8%-9% จนกว่าธนาคารจะสามารถประกาศผลกำไรที่แข็งแกร่งได้อย่างสม่ำเสมอ
รายงานฉบับเต็มของ DB อยู่ที่ www.fitchresearch.com
ต้องการข้อมูลเพิมเติมติดต่อ
ชัยพัฒน์ ไพฑูรย์, Vincent Milton,
กรุงเทพฯ +662 655 4762/4759
David Marshall, ฮ่องกง
+852 2263 9963
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตระดับเพื่อการลงทุน หรือมีอันดับเครดิตอยู่ในระดับต่ำแม้จะอยู่ในระดับเพื่อการลงทุน อันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศจะอยู่ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นถูกออกแบบมาเพื่อนักลงทุนภายในประเทศในแต่ละประเทศนั้นๆ และมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับแต่ละประเทศ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นไม่สามารถนำไปใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO