กรุงเทพฯ--17 ธ.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ดร.สันติ กีระนันท์ ผู้จัดการตลาดตราสารหนี้ (Bond Electronic Exchange [BEX
]) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รับหุ้นกู้ครั้งที่ 5 ของบริษัท ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) จำนวน 12 ล้านหน่วย มูลค่าที่ตราไว้หน่วยละ 1,000 บาท รวมมูลค่า 12,000 ล้านบาท เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดตราสารหนี้ และจะเริ่มซื้อขายตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2547 เป็นต้นไป โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ฯ ว่า “BAY13NA”
“การเข้าจดทะเบียนของหุ้นกู้ BAY13NA จะทำให้จำนวนหุ้นกู้ในตลาดตราสารหนี้ (BEX ) เพิ่มขึ้นเป็น 39 รายการ รวมมูลค่าคงค้างของตลาดตราสารหนี้เพิ่มขึ้นเป็น 194,854.4 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 28 เมื่อเทียบกับมูลค่าคงค้าง ณ สิ้นปี 2546 โดยมีหุ้นกู้เข้าจดทะเบียนซื้อขายเพิ่มขึ้น 21 หลักทรัพย์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นแบบเท่าตัวจากปีที่แล้ว” ผู้จัดการตลาดตราสารหนี้กล่าว
สำหรับหุ้นกู้ BAY13NA ออกโดยบมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2546 มีอายุ 10 ปี เป็นหุ้นกู้ประเภทด้อยสิทธิ ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ไม่มีหลักประกัน ไม่แปลงสภาพ และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ คือ บริษัทเงินทุน กรุงเทพธนาทร จำกัด (มหาชน) โดยมีธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นนายทะเบียน ทั้งนี้ BAY13NA ได้รับการทบทวนการจัดอับดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A- จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2547
BAY13NA ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 5 พฤศจิกายน 2556 กำหนดชำระดอกเบี้ยปีที่ 1-5 อัตราคงที่ร้อยละ 4.0 ต่อปี ปีที่ 6-10 อัตราคงที่ร้อยละ 4.75 ชำระดอกเบี้ยทุกวันที่ 5 ของเดือนกุมภาพันธ์ , พฤษภาคม, สิงหาคม และ พฤศจิกายน ของทุกปี กำหนดชำระงวดแรกวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2547
ดร.สันติกล่าวว่า “การลงทุนในตราสารหนี้ ซึ่งเป็นตราสารที่ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนที่ค่อนข้างแน่นอน เนื่องจากมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ชัดเจน และกำหนดวันชำระดอกเบี้ยที่แน่นอน เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่ค่อนข้างแน่นอนและสม่ำเสมอ
ดังนั้น ผู้ที่สนใจลงทุนในหุ้นกู้ที่มีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่น่าสนใจ ก็สามารถลงทุนผ่าน BEX ได้อย่างสะดวก เพียงส่งคำสั่งซื้อหรือขายไปยังโบรกเกอร์ ก็สามารถลงทุนได้เช่นเดียวกับการซื้อขายหุ้นสามัญทั่วไป โดยหาข้อมูลหุ้นกู้จดทะเบียนใน BEX เพิ่มเติมได้จาก www.bex.or.th หรือสอบถามเพิ่มเติมเรื่องการลงทุนใน BEX ได้ที่โทร 0-2229-2787-91”
ทั้งนี้ การซื้อหรือขายตราสารหนี้ใน BEX ได้กำหนดจำนวนขั้นต่ำในการซื้อขายครั้งละ 100 หน่วย และกำหนดวันชำระค่าซื้อหรือค่าขายในวันทำการที่ 2 ถัดจากวันที่ซื้อหรือขาย ส่วนค่าธรรมเนียมในการซื้อขายเป็นค่าธรรมเนียมแบบต่อรองเสรีที่มีการตกลงกันระหว่างโบรกเกอร์และผู้ซื้อหรือผู้ขาย
สำหรับหุ้นกู้ BAY13NA ของบมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ให้สิทธิผู้ออกสามารถไถ่ถอนทั้งจำนวนได้ก่อนวันครบกำหนด ณ มูลค่าที่ตราไว้ต่อหน่วย โดยผู้ออกหุ้นกู้สามารถไถ่ถอนได้ตามเงื่อนไขที่ระบุ เช่น 1)ไถ่ถอน ก่อนวันครบรอบ 5 ปี นับแต่วันที่ออกหุ้นกู้ หากผู้ออกได้รับแจ้งจาก ธนาคารแห่งประเทศไทยว่า หุ้นกู้นี้ไม่เป็นหรือไม่ถูกจัดให้เป็นตราสารที่สามารถนับเข้าเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 หรือ 2) ไถ่ถอน ณ วันครบรอบ 5 ปี นับแต่วันที่ออกหุ้นกู้ หรือ ณ วันชำระดอกเบี้ยใด ๆ หลังจากวันครบรอบ 5 ปี นับแต่วันออกหุ้นกู้ หรือกรณีที่ 3)ไถ่ถอนในกรณีที่ผู้ออกหุ้นกู้สามารถแสดงได้ว่า ดอกเบี้ยตามหุ้นกู้นี้ไม่สามารถหักเป็นค่าใช้จ่ายของผู้ออกหุ้นกู้เพื่อประโยชน์ทางภาษีอากรได้อีกต่อไป เป็นต้น
ผู้ลงทุนสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมของหุ้นกู้บมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้จากเว็บไซต์ของบริษัทที่ www.krungsri.com หรือเว็บไซต์ของตลาดตราสารหนี้ที่ www.bex.or.th
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036 / กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037/
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049--จบ--
- ๒๓ พ.ย. กรุงศรี จัดงาน Krungsri-MUFG Business Matching Fair 2024 ปูทางธุรกิจสู่ความสำเร็จในอาเซียน
- ๒๓ พ.ย. กรุงศรีชูการเงินเพื่อการเปลี่ยนผ่านธุรกิจ SME สู่ความยั่งยืนในที่ประชุม COP29 พร้อมร่วมหารืออนาคตการเงินเพื่อรับมือโลกร้อน
- ๒๓ พ.ย. กรุงศรี ออโต้ ชวนช้อปปิ้งสินค้ารักษ์โลกผ่าน 'PromptBuy ศูนย์รวมสินค้ารักษ์โลก เพื่อไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืน' กับโปรโมชันพิเศษส่งท้ายปี 67