กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.-ปภ.
กรมป้องกันฯ หวั่นภัยแล้งส่อเค้ารุนแรง ส่งผลกระทบให้เกิดวิกฤติน้ำประปา เร่งประสาน
การประปาฯ วางแผนแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำดิบ โดยเร่งพัฒนาแหล่งน้ำตื้นเขิน และหาแหล่งน้ำเพิ่มเติม
นายสุนทร ริ้วเหลือง อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ขณะนี้ภัยแล้งลุกลาม ขยายวงไปยัง 55 จังหวัด 555 อำเภอ 50 กิ่งอำเภอ 4,058 ตำบล 36,892 หมู่บ้าน ส่งผลให้ราษฎรเดือดร้อน 7,637,785 คน 2,005,189 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรประสบความเสียหาย 11.6 ล้านไร่ มูลค่าความเสียหาย 5,910 ล้านบาท ซึ่งจังหวัดที่พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายมากที่สุด ได้แก่ นครราชสีมา รวม 2,403,759 ไร่ โดยสถานการณ์ความแห้งแล้งเริ่มส่อเค้ารุนแรงต่อเนื่องยาวนาน หวั่นจะส่งผลกระทบต่อน้ำอุปโภค บริโภคในช่วงฤดูแล้ง ปี 2548 กรมป้องกันฯ จึงได้ประสานการประปาส่วนภูมิภาค กำหนดมาตรการและแนวทางแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำดิบ โดยแจ้งให้สำนักงานประปาทุกแห่ง จัดทำแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง สำหรับแหล่งน้ำดิบ เพื่อการผลิตน้ำประปา ให้เร่งขุดลอก ปรับปรุง พัฒนา แหล่งน้ำที่ตื้นเขิน ให้สามารถเก็บกักน้ำดิบได้มากขึ้น ประสานภาคเอกชน ขอใช้แหล่งน้ำ เพื่อนำมาเสริมในช่วงที่ขาดแคลนน้ำดิบ และเตรียมท่อส่งน้ำดิบชั่วคราว พร้อมทั้งทำการ สูบน้ำดิบให้เต็มและอยู่ในสภาพสมบูรณ์ตลอดเวลา เฝ้าระวังมิให้เกิดสาหร่ายสีน้ำเงินแกมเขียว หรือเชื้ออะมีบา ในแหล่งน้ำดิบ สร้างฝายทดน้ำ เพื่อให้เกิดความสะดวกในการสูบน้ำไปผลิตน้ำประปา ตลอดจนให้ผลิตและจ่ายน้ำประปาเป็นเวลา และเพิ่มมาตรการผลิตและจ่ายน้ำประปาให้เข้มงวด เพื่อป้องกันการระบาดของโรค โดยเติมคลอรีนฆ่าเชื้อโรคอย่างเหมาะสม และเป็นไปตามมาตรฐาน รวมทั้งเฝ้าระวังอย่าให้มีตัวร้อยขาในน้ำประปา ด้านการให้ความช่วยเหลือ กรมป้องกันฯ ได้ประสานสำนักงานประปาในพื้นที่แห้งแล้ง ให้นำน้ำประปาไปแจกจ่ายกับผู้ประสบภัยแล้งแล้ว จำนวน 71,752 ลบ.ม. สุดท้ายนี้ ขอให้ประชาชนร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัด และมีคุณค่า พร้อมจัดเตรียมภาชนะเก็บกักน้ำ และสำรองน้ำไว้ใช้ เพื่อป้องกันการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง--จบ--