สสว.จัดเวิร์กช็อป ผู้ว่าฯ CEO ทั่วไทย คัด SMEs กว่า 1.4 ล้านราย ชู 19 กลุ่มคลัสเตอร์แนวโน้มดี

พฤหัส ๒๓ ธันวาคม ๒๐๐๔ ๐๙:๐๕
กรุงเทพฯ--23 ธ.ค.--สสว.
มหาดไทยจับมือ สสว.ชูศักยภาพธุรกิจ 19 กลุ่มคลัสเตอร์ทั่วไทย ยกระดับ SMEs ภูธร กว่า 1.4 ล้านราย สร้างมูลค่าเพิ่มนำรายได้สู่ท้องถิ่น ภายใต้โครงการ SMEs ภูมิภาคแห่งชาติ เปิดเวทีผู้ว่าฯภาคบริหารเศรษฐกิจทั่วประเทศกำหนดยุทธศาสตร์ 28 ธ.ค.นี้
นางจิตราภรณ์ เตชาชาญ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่าโครงการ SMEs ภูมิภาคแห่งชาติ เป็นความร่วมมือระหว่าง สสว. กับกระทรวงมหาดไทยในการประสานความร่วมมือ ผลักดันธุรกิจที่มีศักยภาพในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ 75 จังหวัด แบ่งเป็น 19 กลุ่ม เพื่อสร้างธุรกิจให้เกิดขึ้น และกระจายรายได้สู่ภูมิภาคอย่างครบวงจร โดยจะเข้าไปเติมเต็มในส่วนการจัดทำโครงการ หรือแผนการลงทุนให้กับผู้ประกอบการในเขตปริมณฑลและต่างจังหวัด ด้วยการอาศัยจุดแข็งของกระทรวงมหาดไทยมาเป็นตัวนำในการเข้าสู่พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ
ในวันที่ 28 ธันวาคม 2547 จะมีการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่องยุทธศาสตร์การพัฒนา SMART SMEs ภูมิภาค ณ แกรนด์บอลรูม ชั้น 2 โรงแรมเชอราตัน แกรนด์สุขุมวิท เพื่อเป็นเวทีสำหรับระดมความคิดจากผู้ว่าฯ CEO ทั่วประเทศระดับภูมิภาคสู่ส่วนกลางในการกำหนดทิศทางเดินหน้าโครงการอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป มั่นใจว่าโครงการฯเป็นความร่วมมือ เพื่อนำจุดแข็งของผู้ว่าฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ในฐานะผู้รับรู้และสัมผัสกับผู้ประกอบการ แหล่งทรัพยากร ซึ่งสามารถสะท้อนแนวโน้มของศักยภาพกลุ่มธุรกิจในแต่ละพื้นที่ตัวเองได้อย่างดีที่สุด
การดำเนินโครงการ SMEs ภูมิภาคแห่งชาติ เป็นการสร้างของการต่อยอดและเพิ่มประสิทธิภาพกลุ่มธุรกิจ เพื่อชูให้เกิดกลุ่มคลัคเตอร์อุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในแต่ละภูมิภาค ซึ่ง บทบาทหน้าที่ของ สสว. คือการเข้าเพิ่มเติมในส่วนที่ภูมิภาคขาดคือ แผนธุรกิจ การตลาด เสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์และแนวโน้มธุรกิจ SMEs จัดหาผู้เชี่ยวชาญสำหรับวิเคราะห์ศักยถาพแต่ละกลุ่มจังหวัด
ทั้งนี้ สสว. และกระทรวงมหาดไทยจะร่วมกันช่วยเหลือจัดทำ รวมทั้งการเข้าร่วมลงทุนโดยกองทุนร่วมลงทุนที่มีอยู่ Business Strategy นำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาสนับสนุนและพัฒนาการผลิต จัดหาแหล่งเงินทุน อาทิ Venture Capital การกู้เงินจากธนาคารต่าง ๆ การสนับสนุนข้อมูลด้านการวิจัยตลาด และพฤติกรรมผู้บริโภค สร้างเครือข่ายวิสาหกิจของผลิตภัณฑ์ให้เกิดความร่วมมือสนับสนุนส่งเสริมซึ่งกันและกันอย่างครบวงจร จัดหาตลาดหรือช่องทางการจัดจำหน่าย ทั้งในด้านของกลยุทธ์การตลาด และการสร้างตราสินค้า (Branding) ให้กับโครงการที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือกจากผู้ว่า CEO ในแต่ละกลุ่มยุทธศาสตร์
ขณะนี้มีโครงการที่มีศักยภาพในการลงทุนแล้ว 5 โครงการ ได้แก่ โครงการเมืองยาง(RUBBER CITY),โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ในการพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(ECO Camping Park) โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs “MODERN RICE FARMING” โครงการ “BIO PLASTIC CITY” และโครงการ “Provincial Master Project” ซึ่งโครงการเหล่านี้ได้มีการดำเนินงานในรายละเอียดไประดับหนึ่งแล้ว ซึ่งจะสร้างประโยชน์ให้กับระบบเศรษฐกิจในภูมิภาคและของประเทศโดยรวม เช่นโครงการ RUBBER CITY ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตยางพาราเป็นอันดับหนึ่งของโลก โดยครอบคลุมพื้นที่ปลูกยางพารา 12.24 ล้านไร่ มีเกษตรกรที่ประกอบอาชีพปลูกยางพาราประมาณ 7 ล้านคน จะเห็นได้ว่า จากโครงการดังกล่าว นอกจากจะเป็นการสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร จำนวน 7 ล้านคนแล้ว ยังสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ SMEs ซึ่งจะสามารถสร้างรายได้จำนวนมากให้แก่ประเทศไทยได้ในที่สุดในท้องถิ่น
อย่างไรก็ตามจากข้อมูลทางสถิติ ปี 2546 พบว่า วิสาหกิจขนาดใหญ่นั้น มีจำนวน 10,599 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.5 ส่วน SMEs มีจำนวนถึง 1,995,929 ราย คิดเป็นร้อยละ 99.5 แต่ในขณะเดียวกันวิสาหกิจขนาดใหญ่นั้น ครอบคลุมรายได้ประชาชาติถึง 3,096,028 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 62 ส่วนเอสเอ็มอีนั้น สามารถสร้างรายได้ประชาชาติจำนวน 2,263,574 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 38 จะเห็นได้ว่า เอสเอ็มอีที่มีจำนวนมากครอบคลุมวิสาหกิจเกือบทั้งประเทศนั้น มีรายได้น้อยกว่าวิสาหกิจขนาดใหญ่ที่มีจำนวนเพียงร้อยละ 0.5 และที่สำคัญที่สุด คือ เอสเอ็มอีส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ประมาณ 611,000 ราย ในขณะที่กระจายอยู่ในต่างจังหวัดอีกประมาณ 1,400,000 ราย จึงเชื่อว่าโครงการนี้จะสามารถสร้างธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีกจำนวนมหาศาล
ประชาสัมพันธ์
นิตยา วงศ์วิชิต 02-6633226-9--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ