กรุงเทพฯ--23 ธ.ค.--ก.ล.ต.
ก.ล.ต. เผยแผนงานเพื่อพัฒนาตลาดทุนปี 2548 มุ่งเน้น ยกระดับบรรษัทภิบาลที่ดีของบริษัทจดทะเบียน และเตรียมความพร้อมตลาดทุนไทยสู่มาตรฐานสากล โดยจะสื่อให้ต่างประเทศทราบความก้าวหน้าเรื่องต่าง ๆ ซึ่งจะต้องผลักดันให้มีการแก้ไขกฎหมายบางเรื่องด้วย
วันนี้ (23 ธ.ค. 47) นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า “ ในช่วงเวลาหนึ่งปีที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ก.ล.ต. ได้มุ่งเน้นที่จะทำให้การซื้อขายหลักทรัพย์เป็นไปอย่างมีระเบียบภายใต้กฎเกณฑ์ที่เป็นธรรม ทำให้หลักทรัพย์เป็นสินค้าคุณภาพให้ผู้ลงทุนเลือกซื้อ และให้มีระบบต่าง ๆ รองรับธุรกรรมในตลาดทุนได้อย่างราบรื่น ผลงานเหล่านี้ล้วนมุ่งหวังให้ผู้ลงทุนซื้อขายหลักทรัพย์ได้อย่าง สบายใจ ในขณะที่ผู้ประกอบการสามารถระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
“ สำหรับแผนงานปี 2548 นั้น ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องตามแผนกลยุทธ์ 3 ปี แต่เพื่อให้สอดคล้องกับกระแสความเชื่อมโยงของตลาดทุนระหว่างประเทศ ภารกิจสำคัญในปี 2548 จึงเน้นในเรื่องการยกระดับบรรษัทภิบาลที่ดีของบริษัทจดทะเบียน และการเตรียมความพร้อมของตลาดทุนไทยเพื่อก้าวสู่มาตรฐานสากล ซึ่งมีความจำเป็นต้องผลักดันให้มีการพัฒนาและแก้ไขกฎหมายเพื่อรองรับภารกิจดังกล่าว ”
“ ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยมีค่า P/E ratio ที่ต่ำกว่าประเทศอื่น น่าจะมีโอกาสได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนต่างประเทศมากกว่านี้ โจทย์ก็คือ ทำอย่างไรถึงจะดึงดูดความสนใจได้ การสร้างความมั่นใจในคุณภาพของสินค้าจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องรีบดำเนินการ และแม้ว่าบรรษัทภิบาลของบริษัทจดทะเบียนไทย
นับได้ว่า มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องแล้ว แต่ก็ยังต้องได้รับการส่งเสริมและพัฒนาต่อไป โดยเฉพาะการผลักดันให้บริษัทจดทะเบียนทุกแห่งปฏิบัติตามหลักบรรษัทภิบาลที่ดีให้ได้อย่างครบถ้วน การให้ความสำคัญกับเรื่องบทบาทหน้าที่ของกรรมการ การทำธุรกรรมกับบุคคลที่เกี่ยวโยงกันต้องโปร่งใส
นอกจากนี้ พัฒนาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ควรจะต้องมีวิธีการสื่อสารไปยังต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมสร้างภาพพจน์ที่ดีในเรื่องบรรษัทภิบาลในสายตาของผู้ลงทุนต่างประเทศ ”
นายธีระชัย กล่าวต่อไปว่า “ ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยจะเข้าร่วมโครงการประเมินทางด้าน
การเงินของประเทศ (Financial Sector Assessment Programme : FSAP) โดย ธปท. จะเป็นผู้ประสานงานหลักนำประเทศไทยเข้าร่วมโครงการในปี 2549 ในระหว่างนี้ ก.ล.ต. ก็ต้องเตรียมความพร้อมในส่วนของตลาดทุน ซึ่งก็คือ ดำเนินการให้การกำกับดูแลตลาดทุนไทยเป็นไปตามมาตรฐาน IOSCO (International Organization of Securities Commission) โดยวางแผนว่า ในปี 2548 ก.ล.ต. จะสมัครเข้าลงนามใน MMOU (IOSCO Multilateral Memorandum of Understanding Concerning Consultation and Cooperation and the Exchange of Information) ซึ่งเป็นการให้ความร่วมมือในการตรวจสอบและแลกเปลี่ยนข้อมูลแก่องค์กรกำกับดูแลตลาดทุนของต่างประเทศ เพื่อประโยชน์ของตลาดทุนไทยเองในการจัดการและป้องกันการทำธุรกรรมที่มิชอบที่อาจจะเกิดขึ้นผ่านโครงข่ายในต่างประเทศ ”
“ เพื่อให้ผลการประเมินตลาดทุนไทยซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ FSAP มีผลเป็นที่น่าพอใจ ก.ล.ต. จึงต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องต่าง ๆ โดย ก.ล.ต. จะศึกษาปัญหาที่เป็นอุปสรรคแก่การกำกับดูแลตลาดทุนตามมาตรฐาน IOSCO เพื่อหาแนวทางแก้ไขไว้ล่วงหน้า ในขณะเดียวกัน ก็จะผลักดันให้มีการปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้ ก.ล.ต. สามารถกำกับดูแลตลาดทุนไทยในระดับเดียวกับองค์กรกำกับดูแลตลาดทุนในประเทศอื่น ๆ ทั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ทั้งชาวไทยและต่างประเทศว่า สินค้าไทยเปี่ยมด้วยคุณภาพ ผู้ลงทุนจะได้รับบริการที่ดี ภายใต้กฎเกณฑ์ที่เป็นสากล ” นายธีระชัย กล่าวสรุป
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายงานเลขาธิการ - Press Office
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
โทร. 0-2695-9503-5
email: [email protected]จบ--