สรุปบทวิเคราะห์ของ เลแมน บราเดอร์ส “รายงานภาวะเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น)”

จันทร์ ๒๗ ธันวาคม ๒๐๐๔ ๑๑:๕๖
กรุงเทพฯ--27 ธ.ค.--Aziam Burson-Marsteller
บทบาทของภูมิภาคเอเชีย
ภูมิภาคเอเชียมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการถ่วงดุลเศรษฐกิจโลก
เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเด่นชัดนับตั้งแต่ช่วงวิกฤติ
ทางการเงินใน ปี 2540-2541 เป็นต้นมา กล่าวคือ ภาคการเงินและภาคเอกชนในภูมิภาคมีการปรับตัวไป
ในทิศทางที่ดีขึ้น จุดยืนทางการค้าในต่างประเทศมีเสถียรภาพ และจีดีพีของประเทศต่างๆ มีการปรับตัวเพิ่ม
ขึ้นมากกว่าก่อนช่วงวิกฤติ
อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงคือ ภูมิภาคเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) ยังคงดำเนิน
นโยบายการขยายตัวทางเศรษฐกิจโดยเร่งการส่งออก ส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลในระดับสูงติดต่อกัน
เป็นระยะเวลา 7 ปี และสกุลเงินที่อ่อนค่ากว่าที่ควรจะเป็นยิ่งเป็นส่วนเสริมให้เกินดุลมากขึ้นซึ่งจากนี้ไป
สถานการณ์จะเริ่มเปลี่ยนแปลง
โดยจากแรงกดดันภายนอกและความมั่นใจที่เพิ่มสูงขึ้นในภูมิภาคเอเชียทำให้ธนาคารกลางใน
หลายประเทศในภูมิภาคเอเชียเริ่มปล่อยให้ค่าเงินของประเทศตนแข็งค่าขึ้น ซึ่ง เลแมน บราเดอร์ส เห็นว่า
การเคลื่อนไหวนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น โดยในปี 2548 ภูมิภาคเอเชียจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สุด
ในหลากหลายด้านนับตั้งแต่การเกิดภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ เสมือนการเปลี่ยนจากภาวะวิกฤติกลับสู่ภาวะที่มี
เสถียรภาพ เลแมน บราเดอร์ส คาดการณ์ว่า ค่าเงินสกุลหลักของเอเชียจะแข็งค่าเพิ่มขึ้นขณะที่อัตราดอก
เบี้ยจะลดต่ำลง ตลอดจนความต้องการภายในประเทศจะดีดตัวพุ่งสูงขึ้นขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลลดลง
ปัจจัยพื้นฐานมีความแข็งแกร่งมากขึ้น
ภูมิภาคเอเชียมีความแปรปรวนจากปัจจัยภายนอกในระดับต่ำ เนื่องจากประเทศต่างๆ ในภูมิ
ภาคเอเชียมีดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล และมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นเหนือระดับพอเพียง นอก
จากนี้ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาคเอกชนและภาคการเงินของ
ภูมิภาคมีการปรับตัวที่ดีขึ้นมาก แม้ว่าจะไม่ได้พุ่งขึ้นสู่ระดับที่ดีที่สุดก็ตาม ทำให้ภูมิภาคเอเชียมีความสามารถใน
การทำกำไรและมีงบดุลที่ดีขึ้น รวมทั้งมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนลดลงและสอดคล้องตามมาตรฐานสากล นอกจาก
นี้ การที่ธนาคารในภูมิภาคเอเชียได้ให้ความสำคัญกับประเด็นความเสี่ยงในการให้สินเชื่อส่งผลให้ธนาคารมี
เงินทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้นประมาณร้อยละ 8 ขณะที่สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ปรับตัว
ลดลงประมาณร้อยละ 10 อย่างไรก็ดี ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียประสบความคืบหน้าในระดับที่แตกต่าง
กัน โดยภาคการเงินของจีน ไทย และฟิลิปปินส์ ยังคงมีความอ่อนแอแต่โดยรวมแล้ว การปรับเปลี่ยนโครง
สร้างทางเศรษฐกิจมีความคืบหน้าอย่างมาก อาทิ การลงทุนเพื่อดำเนินธุรกิจต่างๆ ที่ช่วยหนุนเสริมให้จีดีพี
ของภูมิภาคเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) ในปี 2547 ปรับตัวสูงขึ้นกว่าหลายปีที่ผ่านมาก่อนช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ และ
ธนาคารต่างๆ เริ่มปล่อยสินเชื่ออีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินเชื่อภาคครัวเรือน
ทิศทางของสินเชื่อภาคครัวเรือน
ด้วยนโยบายการเปิดเสรีทางการเงิน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตของธุรกิจบัตรเครดิต)
และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่
ในระดับต่ำ นับเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้ภาคครัวเรือนในภูมิภาคเอเชียมีการกู้ยืมมากขึ้น ซึ่งปรา
กฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นแล้วในประเทศเกาหลีที่มีการกู้ยืมมากเกินไปจนทำให้เกิดวิกฤติการณ์บัตรเครดิตขึ้น
ในปี 2545 อย่างไรก็ตาม
การกู้ยืมสินเชื่อของภาคครัวเรือนในประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดย
ยังมีอัตราการออมเงินที่สูง
การขยายตัวของชนชั้นกลาง
เมื่อพิจารณาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ เลแมน บราเดอร์ส คาดว่า รายได้ต่อหัวโดยเฉลี่ย
ของภูมิภาคเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 5,770 เหรียญสหรัฐในปี 2541 เป็น 7,470
เหรียญสหรัฐในปี 2547 โดยรายได้
ส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ความต้องการซื้อสินค้าภายในประเทศขยายตัวอย่างมาก โดยเฉพาะ
ในประเทศจีน ซึ่งมีจำนวนโทรศัพท์มือถือในทุกๆ 100 ครัวเรือนที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองเพิ่มขึ้นจาก 3 เครื่อง
ในปี 2541 เป็น 109 เครื่อง
ในปัจจุบัน นอกจากนี้ ปริมาณนักท่องเที่ยวชาวจีนยังเพิ่มมากขึ้น โดยในปี 2546 ชาวจีนเดิน
ทางไปท่องเที่ยว
ในต่างประเทศสูงถึง 20 ล้านคน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีจำนวนสูงกว่านักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น
และมีแนวโน้มที่จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนจะพุ่งสูงถึง 24 ล้านคนในปี 2547
แนวโน้มพฤติกรรมของประชากรวัยทำงานรุ่นใหม่
สัดส่วนของประชากรวัยทำงานในภูมิภาคเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างเด่นชัด
ซึ่งแตกต่างจากภูมิภาคอื่นๆ ของโลก และเมื่อเทียบกับรุ่นบิดามารดาที่มีความประหยัดมัธยัสถ์ ประชากรรุ่น
ใหม่ในภูมิภาคเอเชียจะใช้ชีวิตแบบเสรีมากขึ้น โดยแยกออกจากครอบครัวบิดามารดาเพื่อมาใช้ชีวิตอย่าง
อิสระ และมีการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวและกิจกรรมยามว่างเพิ่มขึ้น
การขยายตัวของสังคมเมืองที่รวดเร็ว
ประชากรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกประมาณร้อยละ 40 อาศัยอยู่ในชุมชนเมือง ซึ่งถือเป็น
สัดส่วนที่ค่อนข้างต่ำ
เมื่อเทียบกับภูมิภาคละตินอเมริกาและสหรัฐอเมริกาที่มีอัตราการขยายตัวของชุมชนเมืองประ
มาณร้อยละ 75 และ 60 ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ภูมิภาคเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) กำลังมีการขยายตัวของสัง
คมเมืองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งหากมีการบริหารจัดการที่ดีแล้วจะส่งผลให้เศรษฐกิจมีการขยายตัวและ
เพิ่มผลผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ (Economy of scale) ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นในการสร้างผลกำไรและ
รายได้สูงขึ้น ทั้งนี้ ธนาคารโลก คาดการณ์ว่า ประชากรในสังคมเมืองของภูมิภาคเอเชียจะเพิ่มขึ้นถึง
500 ล้านคนในระหว่างปี 2543 — 2568
การคาดการณ์การขยายตัวของจีดีพีในปี 2548
ประเทศที่มีการเติบโตของจีดีพีในระดับสูง เลแมน การประมาณการของตลาดโดยรวม ความแตกต่าง
บราเดอร์ส (ร้อยละ)
ฮ่องกง 5.5 4.5 1
อินโดนีเซีย 5.8 4.9 0.9
ไต้หวัน 5 4.2 0.8
เกาหลีใต้ 4.9 4.1 0.8
มาเลเซีย 6 5.3 0.7
ไทย 6 5.6 0.4
จีน 8.3 8 0.3
ประเทศที่มีการเติบโตของจีดีพีในระดับปานกลาง
สิงคโปร์ 4.5 4.4 0.1
ประเทศที่มีการเติบโตของจีดีพีในระดับต่ำ
ฟิลิปปินส์ 3.7 4.2 -0.5
การคาดการณ์จีดีพีที่แท้จริงและดัชนีราคาผู้บริโภค*
จีดีพีที่แท้จริง ดัชนีราคาผู้บริโภค
(การเติบโตเทียบเป็นร้อยละปีต่อปี) (การเติบโตเทียบเป็นร้อยละปีต่อปี)
ไตรมาส 3 ปี 2547 2547 2548 2549 พฤศจิกายน 2547** 2547 2548 2549
จีน 9.1 9.2 8.3 8.5 2.8 4.1 3.5 2.5
ฮ่องกง 7.2 8 5.5 4.8 0.2 -0.4 2.5 4.5
อินโดนีเซีย 5 4.9 5.8 6.5 6.2 6.2 6.4 5.5
มาเลเซีย 6.8 7 6 6 2.1 1.5 3 3.5
ฟิลิปปินส์ 6.3 5.9 3.7 4 8.2 5.9 7.5 7.5
สิงคโปร์ 7.5 8 4.5 4.3 2 1.7 1.8 1.5
เกาหลีใต้ 4.6 4.3 4.9 5.5 3.3 3.8 3.4 3
ไต้หวัน 5.3 5.7 5 5 1.5 1.9 3 2.5
ไทย 6 6 6 6 3 2.8 3 2.5
ภูมิภาคเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) 7.1 7.2 6.5 6.7 2.9 3.4 3.5 3
* เป็นการคาดการณ์แบบ modal forecast ซึ่งเป็นการคาดการณ์ผลที่มีแนวโน้มเป็นไปได้
มากที่สุด
** ดัชนีราคาผู้บริโภคของฮ่องกง มาเลเซีย และสิงคโปร์ เป็นข้อมูลประจำเดือนตุลาคม
Satida Sritunyatorn
Media Relations Manager
Aziam Burson-Marsteller
Tel: 0 2252 9871 x122
Fax: 0 2254 8353--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version