กรุงเทพฯ--29 ธ.ค.--ธ.กสิกรไทย
นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากกรณีการเกิดคลื่นยักษ์ถล่ม 6 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนคนไทยและชาวต่างชาติในพื้นที่อย่างมหาศาล ซึ่งในจำนวนนี้มีบางส่วนเป็นลูกค้าของธนาคารที่ใช้บริการสินเชื่อของธนาคาร ทั้งลูกค้ารายย่อยและรายใหญ่ใน 6 จังหวัดภาคใต้รวมประมาณ 7,200 ล้านบาทปรากฏได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติในครั้งนี้ด้วย ตั้งแต่เสียหายเพียงเล็กน้อยจนถึงเสียหายมาก ถึงขั้นไม่สามารถดำเนินธุรกิจตามปกติได้ ซึ่งธนาคารได้สั่งการให้สาขาในพื้นที่ดูแลและช่วยเหลือลูกค้าเป็นกรณีพิเศษ โดยเฉพาะการสำรวจถึงความต้องการของลูกค้าที่ธนาคารจะเข้าไปช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
อย่างไรก็ตาม ธนาคารก็มีนโยบายที่จะเข้าไปช่วยเหลือลูกค้าของธนาคารที่ได้รับผลกระทบให้สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้โดยเร็วที่สุด โดยจะพิจารณาความช่วยเหลือตามความจำเป็นของแต่ละราย อาทิ เพิ่มวงเงินเครดิตระยะสั้น ยืดระยะเวลาการผ่อนชำระ หรือในกรณีที่ประสบความเสียหายจนไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ จะพิจารณาเรื่องการคิดดอกเบี้ย ให้พักการชำระหนี้ชั่วคราว พร้อมให้วงเงินสินเชื่อระยะสั้นดอกเบี้ยพิเศษเพื่อฟื้นฟูกิจการโดยเร็ว
ธนาคารกสิกรไทยมีสาขาใน 6 จังหวัดภาคใต้ทั้งหมด 13 สาขา ซึ่งไม่ได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติคลื่นยักษ์ในครั้งนี้ และยังสามารถเปิดให้บริการแก่ลูกค้าได้ตามปกติทุกสาขา
นายบัณฑูร กล่าวว่า ในช่วงนี้นับเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในการในการที่คนไทยทุกคนจะแสดงน้ำใจในการช่วยเหลือพี่น้องในภาคใต้ ในส่วนของธนาคารกสิกรไทย ได้บริจาคเงินจำนวน 5 ล้านบาท ให้แก่มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ผ่านสมาคมธนาคารไทยเรียบร้อยแล้ว และเปิดรับบริจาคเงินผ่านสาขาของธนาคารกสิกรไทยทุกสาขาทั่วประเทศ หรือโอนเงินบริจาคผ่านเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทยทุกเครื่อง ชื่อบัญชี น้ำใจไทยช่วยผู้ประสบภัยใต้ บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 745-2-39155-9 สาขาสำนักราษฎร์บูรณะ โดยเงินทั้งหมดจะมอบผ่านมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อนำไปช่วยเหลือพี่น้องใน 6 จังหวัดภาคใต้ต่อไป
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
รังษี บูรณประภาพงศ์
ฝ่ายสื่อสารและส่งเสริมงานบริหารองค์การ ธนาคารกสิกรไทย
โทรศัพท์ 0 2470 2655 โทรสาร 0 2470 2746
e-mail: [email protected]
www.KASIKORNBANK.com--จบ--