ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียม 13 โครงการ IT รองรับ Integrated Market ในปี 2548

พฤหัส ๓๐ ธันวาคม ๒๐๐๔ ๑๑:๐๓
กรุงเทพฯ--30 ธ.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นายชัยยุทธ์ ชำนาญเลิศกิจ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ สายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ เปิดเผยว่า ในปี 2548 นี้ ได้มีการวางแผนที่จะดำเนินงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศถึง 13 โครงการด้วยกัน เพื่อรองรับการพัฒนาในตลาดทุน ซึ่งจะเป็น Integrated Market ซึ่งครอบคลุมทั้ง 3 ตลาด ได้แก่ ตลาดตราสารทุน ตลาดตราสารหนี้ และตลาดตราสารอนุพันธ์
“การพัฒนาของตลาดทุนไทยที่จะมีความหลากหลายของตราสารและเครื่องมือทางการเงินใหม่ ๆ ในอนาคต เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้วางแผนพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ให้สามารถรองรับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับงานสำคัญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะดำเนินการในปี 2548 แบ่งเป็นโครงการใหม่จำนวน 7 โครงการ และการปรับปรุงโครงการเดิมให้มีประสิทธิจำนวน 6 โครงการ” นายชัยยุทธ์กล่าว
สำหรับโครงการใหม่ 7 โครงการ จะเน้นไปที่ระบบงานซื้อขายและระบบชำระราคาของตลาดตราสารอนุพันธ์ ระบบงานสนับสนุนตลาดตราสารหนี้ ระบบงานกำกับการซื้อขายที่รองรับทั้ง 3 ตลาด การรวมศูนย์ชำระราคา ธุรกิจการยืมหลักทรัพย์ และตลาดซื้อคืนพันธบัตรและตราสารหนี้ ระบบเชื่อมต่อสำหรับการชำระราคาเพื่อรองรับ Real-Time Gross Settlement และระบบงานการให้บริการ One-Stop Service ตลอดจนการจัดเตรียมระบบสำรองในการส่งคำสั่งซื้อขายให้แก่บริษัทสมาชิกในกรณีที่ระบบของบริษัทสมาชิกขัดข้อง
นายชัยยุทธ์กล่าวว่า “หนึ่งในภารกิจสำคัญคือ ระบบงานสำหรับตลาดอนุพันธ์ ซึ่งจะเปิดให้มีการซื้อขายในปี 2548 โดยจะมีการพัฒนาทั้งระบบงานการส่งคำสั่งซื้อขาย ระบบงานซื้อขาย ระบบงานชำระราคาและส่งมอบ และระบบงานปฏิบัติการหลังการซื้อขาย
สำหรับธุรกิจการยืมหลักทรัพย์ เป็นบริการที่ให้แก่บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่กำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านธุรกิจการยืมหลักทรัพย์ ทั้งด้านระบบซื้อขาย ระบบบริหารความเสี่ยง และระบบหลังการซื้อขาย เพื่อให้บริการแก่บริษัทสมาชิกที่ไม่ต้องการลงทุนเอง เนื่องจากต้องใช้เงินลงทุนที่สูง ซึ่งจะทำให้ธุรกิจการยืมหลักทรัพย์มีปริมาณมากขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ ทุกโครงการได้เริ่มดำเนินการแล้วตั้งแต่ปี 2547 และจะแล้วเสร็จในปี 2548”
นอกจากนี้ ยังได้มีการวางแผนให้บริการ One-Stop Service ที่จะเปิดให้บริการในปี 2548 สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการติดต่องานเกี่ยวกับงานทะเบียนหลักทรัพย์ การรับฝากหลักทรัพย์ รวมทั้ง งานอื่น ๆ ที่ให้บริการโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทย่อย ซึ่งจะทำให้ผู้ลงทุนได้รับความสะดวกสบาย และรวดเร็วมากขึ้น เมื่อมาใช้บริการที่จุดดังกล่าว
สำหรับการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพระบบงานและโครงสร้างพื้นฐานอีก 6 โครงการ ได้แก่ โครงการพัฒนาระบบจับคู่คำสั่งใหม่ และการจัดหาพัฒนาระบบปฏิบัติการหลังการซื้อขาย ซึ่งให้บริการครอบคลุมทั้งตลาดตราสารทุน ตลาดตราสารหนี้ และตลาดตราสารอนุพันธ์ (Integrated Market) นอกจากนี้ยังมีระบบการรับคำสั่งซื้อขายหลายช่องทาง ระบบงานศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ การปรับปรุงช่องทางการเผยแพร่ข้อมูลการซื้อขาย รวมทั้งโครงการจัดทำระบบศูนย์คอมพิวเตอร์สำรอง ตลอดจนการกำหนดมาตรฐานการให้บริการ เป็นต้น
“โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ลงทุน ลดต้นทุนการดำเนินงานของบริษัทสมาชิก และเพิ่มคุณภาพการบริการและเพื่อเพิ่มความพึงพอใจสำหรับผู้ใช้บริการของตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้สูงขึ้น ดังนั้น โครงการในปี 2548 ทั้งหมด จะทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในธุรกิจหลักทรัพย์ได้รับความสะดวก และได้รับบริการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับบริษัทสมาชิก บริษัทจดทะเบียน บริษัทจัดการลงทุน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้มีการเตรียมความพร้อม และเพื่อให้การพัฒนาโครงการดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด” รองผู้จัดการ สายงานเทคโนโลยีสารสนเทศกล่าว
ในช่วงที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ดำเนินโครงการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งโดยการพัฒนาระบบเองโดยบุคลากรภายใน ในขณะที่บางโครงการเป็นการจัดซื้อจัดจ้างซอฟต์แวร์ที่มีมาตรฐานสากลที่พัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญ โดยใช้หลักบรรษัทภิบาลที่ดี และมีมาตรการควบคุมความเสี่ยงของโครงการมาโดยตลอด ทั้งนี้ ระบบงานด้านการซื้อขายหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รับการประเมินจากบริษัทผู้ให้บริการระบบ ซื้อขายหลักทรัพย์ระดับสากล ที่ระดับ A เมื่อเทียบกับตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศเกือบ 20 แห่งทั่วโลก
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036 /
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037/
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ