กรุงเทพ--22 ม.ค.--บริษัทเงินทุน ภัทรธนกิจ จำกัด (มหาชน)
บริษัทเงินทุน ภัทรธนกิจ จำกัด (มหาชน) แจ้งฐานะการเงิน และผลประกอบการรวมประจำปี สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2540 ที่ยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีมีรายละเอียดสรุปได้ดังนี้
ด้านฐานะการเงิน
บริษัทมีสินทรัพย์รวม 64,752 ล้านบาท มีเงินลงทุนในหลักทรัพย์สุทธิ 6,406 ล้านบาท เงินให้กู้ยืมลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับสุทธิ 55,871 ล้านบาท และบริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้นสุทธิ 9,887 ล้านบาท โดยมีเงินกองทุนร้อยละ 15.7 ของสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งสูงกว่าอัตราที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดประมาณ 2 เท่า
ด้านผลประกอบการรวม
ในปี 2540 ที่ผ่านมาบริษัทเงินทุนภัทรธนกิจ จำกัด (มหาชน) มีรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิ 2,032 ล้านบาท มีรายได้จากค่านายหน้า ค่าธรรม-เนียม ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนและรายได้อื่นๆ รวม 379 ล้านบาท โดยมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและค่าภาษีอากร 1,168 ล้านบาท ดังนั้น ภัทรธนกิจ จึงมีกำไรจากการดำเนินธุรกิจทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงิน 1,243 ล้านบาท
และในปี 2540 ที่ผ่านมาบริษัทได้ตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ และสำรองเผื่อการลดลงของเงินลงทุนเป็นจำนวนเงิน 6,011 ล้านบาท และ 1,337 ล้านบาทตามลำดับ ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2540 เรื่องการกันสำรองหนี้จัดชั้น และหนี้ต่ำกว่ามาตรฐาน มีผลให้บริษัทขาดทุนสุทธิ 6,105 ล้านบาท ซึ่งการตั้งสำรองเป็นจำนวนเงินสูงในคราวเดียวนี้ ถือเป็นการดำเนินการที่รัดกุมและเหมาะสมที่สุด โดยคำนึงถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคตในกรณีที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจไม่ฟื้นตัว ดังนั้นบริษัทจะสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปในอนาคตได้อย่างมั่นคง และจะไม่มีภาระการตั้งสำรองต่อเนื่องอย่างไม่สิ้นสุด
อนึ่ง แม้ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจเช่นปัจจุบัน ภัทรธนกิจ ยังคงยืนยันนโยบายที่จะเข้มงวดต่อคุณภาพของสินทรัพย์และบริการต่อไป โดยมุ่งเน้นการเร่งรัดและติดตามแก้ไขหนี้ที่สงสัยจะสูญอย่างเข้มงวด อีกทั้งยังคงคำนึงถึงความมั่นคงและผลประโยชน์ที่ลูกค้า ผู้ใช้บริการและผู้ถือหุ้นจะได้รับอย่างเคร่งครัดอีกด้วย--จบ--
- ๐๑:๒๘ EGCO Group คว้าหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ปี 2567 ระดับ "AA" ตอกย้ำความมั่นใจนักลงทุนต่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
- ๐๑:๒๘ SPA ฉลองความสำเร็จ ติดรายชื่อหุ้นคำนวณ FTSE SET Index Series เริ่ม 23 ธ.ค. 67
- ๐๑:๒๘ MASTER ติดอันดับ FTSE SET Shariah Index มีผล 23 ธ.ค. นี้ ครองตำแหน่งผู้นำธุรกิจศัลยกรรมความงาม