กรุงเทพ--13 ส.ค.--บล.เอกธำรง
นายสุวัฒน์ เหล่าภราดรชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริหารเงินทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์ เอกธำรง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาการลงทุนและตัวแทนสนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ของกองทุนเปิดตราสารหนี้เอกธำรงทวีทรัพย์หรือ S-ONE Fixed Income Fund (S1-FIX) เปิดเผยว่าจากการที่ได้มีการจัดตั้งและเปิดขายกองทุนเปิดตราสารหนี้เอกธำรงทวีทรัพย์ มาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2538 ปรากฎว่าการบริหารกองทุนฯ ดังกล่าวได้ผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจ โดยผลตอบแทนสุทธิตั้งแต่เดือนมกราคม 2541 จนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม2541 อยู่ที่ 17.15% ต่อปี ซึ่งนับเป็นกองทุนตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนเป็นอันดับหนึ่งในจำนวนกองทุนตราสารหนี้ที่มีอยู่ทั้งหมดกว่า 40 กองทุน เมื่อเปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกัน ในขณะที่ผลการดำเนินงานย้อนหลังไป 3 ปี อยู่ที่ 35.89% หรือเฉลี่ยที่อัตรา 11.96% ต่อปี ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2541 กองทุนเปิดเอกธำรงทวีทรัพย์มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วย (NAV) เท่ากับ 14.2944 บาทและมีขนาดกองทุนรวม 584 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยที่ทำให้การบริหารกองทุนฯนี้ได้ผลตอบแทนดี สืบเนื่องจากได้มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนให้เข้ากับภาวะการณ์ ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยมีการวิเคราะห์เพื่อเข้าลงทุนในสถาบันการเงินที่มั่นคง ให้อัตราผลตอบแทนที่สูง และที่สำคัญคือ มีการบริหารความเสี่ยงในเชิงการกระจายการลงทุนอย่างเหมาะสม และอาศัยจังหวะเวลาที่ถูกต้องสิ่งเหล่านี้ช่วยให้การบริหารกองทุนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้ความเสี่ยงที่ลดลง ทั้งนี้โดยเฉลี่ยแล้วจะเป็นการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ เงินฝากและตราสารของสถาบันการเงินในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนตราสารการเงินอื่นๆที่ทางการค้ำประกัน หรือมีความเสี่ยงต่ำ
นายสุวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "ในช่วงที่ภาวะตลาดทุนซบเซา การลงทุนในกองทุนเปิดตราสารหนี้ เป็นอีกหนทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากเนื่องจากมีอัตราผลตอบแทนที่น่าพอใจและไม่ต้องเสียภาษีเงินได้สำหรับผู้ลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดา หากแต่ผู้ลงทุนต้องพิจารณาเลือกกองทุนที่มีผลประกอบการดี และมีความเสี่ยงต่ำเป็นหลัก"
ทั้งนี้การซื้อขายกองทุนเปิดตราสารหนี้เอกธำรงทวีทรัพย์นี้ สามารถซื้อขายได้ที่ บมจ.หลักทรัพย์ เอกธำรง จำกัดหรือที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมวรรณ จำกัดซึ่งเป็นผู้จัดการกองทุนของกองทุนฯ นี้
สำหรับภาวะตลาดตราสารหนี้ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าอาจจะมีผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ลดลง ผลตอบแทนโดยรวมของตลาดจะลดลง ตราสารประเภทที่ทางการค้ำประกัน หรือมีความเสี่ยงในระดับต่ำจะยังคงได้รับความสนใจอยู่ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะมีผลกับผลตอบแทนของกองทุนอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม การออมผ่านกองทุนตราสารหนี้ก็ยังจะเป็นทางเลือกที่ดี เมื่อเทียบกับภาวะการลงทุนโดยรวมในขณะนี้
สอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ ฝ่ายประชาสัมพันธ์โทร. 652-1234 ต่อ 403--จบ--