ใช้ยาที่ผลิตในไทยกันเงินรั่วไหลออกนอก

จันทร์ ๑๙ มกราคม ๑๙๙๘ ๑๔:๔๓
กรุงเทพ--19 ม.ค.--สำนักงาน สารนิเทศและประชาสัมพันธ์กระทรวงสาธารณสุข
ในภาวะเศรษฐกิจของชาติมีปัญหา ควรใช้ยาที่ผลิตภายในประเทศ ยาที่ผลิตจากองค์การเภสัชกรรมคุณภาพเท่าเทียมกับยานำเข้าจากต่างประเทศ ให้ผลในการรักษาที่ไม่แตกต่างกันในขณะที่ราคาถูกกว่ามาก
นายรักเกียรติ สุขธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในปี 2539 คนไทย มีการบริโภคยามีมูลค่าประมาณ 42,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นยานำเข้าจากต่างประเทศประมาณ 19,000 ล้านบาท สำหรับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข มีการใช้ยามูลค่า 6 พันล้านบาท 45% เป็นยาที่นำเข้าจากต่างประเทศ ส่วนอีก 55% เป็นยาที่ผลิตในประเทศคิดเป็นมูลค่าประมาณ 3,300 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นยาที่องค์การเภสัชกรรมผลิตมูลค่าประมาณ 2,300 ล้านบาท
ในภาวะเศรษฐกิจของประเทศเช่นนี้ คนไทยควรหันมาบริโภคยาที่ผลิตภายในประเทศมากกว่าที่จะบริโภคยาที่นำเข้าจากต่างประเทศ เพราะยาที่ผลิตภายในประเทศมีคุณภาพเท่าเทียมกับยานำเข้า ให้ผลในการรักษาไม่แตกต่างกัน ในขณะที่มีราคาถูกกว่ามาก โดยเฉพาะยาที่ผลิตจากองค์การเภสัชกรรม ซึ่งได้รับการรับรองคุณภาพ GMP ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข และมีการตรวจสอบคุณภาพในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต อีกทั้งมีการนำระบบคุณภาพ ISO 9002 เข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต ซึ่งเป็นระบบสากล ที่ต่างประเทศให้การยอมรับ นอกจากนี้ ยังมีการยกระดับคุณภาพของห้องปฏิบัติการเข้าสู่ระบบ ISO/IEC Guide 25 ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นคว้าวิจัยและตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ในอีกระดับหนึ่ง
นายแพทย์กฤษฎา มนูญวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ชี้แจงเพิ่มเติมว่า นอกจากจะผลิตยาเองแล้ว องค์การเภสัชกรรมยังมีการลงทุนร่วมกับภาคเอกชน 6 บริษัท ในการผลิตยาและเวชภัณฑ์ ได้แก่ ยาฉีดเข้าเส้น น้ำเกลือ ยาปฏิชีวนะ น้ำตาลเด็กซ์โทรส เครื่องมือแพทย์ วัคซีนโรคภูมิแพ้ และยาจากสมุนไพร สำหรับสมุนไพรนั้น องค์การเภสัชกรรมได้มีการผลิตออกจำหน่ายแล้ว 15 ตำหรับ
นอกจากนี้ องค์การเภสัชกรรมได้มีการวิจัยและพัฒนายาตำหรับใหม่ ทั้งแผนปัจจุบันและยาจากสมุนไพรอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ผลิตยาแผนปัจจุบัน AZT และ DDI ใช้ในโครงการชะลอผู้ติดเชื้อโรคเอดส์ ในส่วนของยาสมุนไพรมี เจลพลู ป้องกันการติดเชื้อทางผิวหนัง น้ำยาฆ่าเชื้อในช่องปากสกัดจากใบฝรั่งในชื่อกวาว่าชนิดผง ใช้ผสมน้ำ และกวาว่าชนิดแคปซูล แก้ท้องเสีย นอกจากนี้ยังมียาแผนปัจจุบันและยาจากสมุนไพรอีกหลายรายการ อยู่ในระหว่างการดำเนินการ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 41
ขอให้ประชาชนมั่นใจผลิตภัณฑ์ยาขององค์การเภสัชกรรม ว่าเป็นยาที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานทัดเทียมยานำเข้า ราคายุติธรรม เหมาะกับค่าใช้จายในยุคภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน นายรักเกียรติ กล่าวย้ำในตอนท้าย--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๑ Kaspersky รายงานการขโมยข้อมูลธนาคารบนสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้น 3 เท่าในปี 2024
๑๗:๐๐ Kaspersky เผย มัลแวร์ขโมยข้อมูลบัตรธนาคาร ปล่อยรั่วไหล 2.3 ล้านใบ
๑๗:๐๐ สมาคมกีฬาเทนนิสสูงอายุไทย ปักหมุด คริสตัล สปอร์ต ทำ Tennis Clinic
๑๖:๔๙ เคพีเอ็น เปิดตัวกองทรัสต์ KPNREIT ปลดล็อกศักยภาพการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ พร้อมกางแผนยกระดับสินทรัพย์และขยายพอร์ตการลงทุน
๑๖:๐๐ โชห่วยยาสูบโอด นายก อิ๊งค์ สั่งปราบบุหรี่ไฟฟ้าแต่ปล่อยบุหรี่เถื่อนเกลื่อนเมือง
๑๖:๐๑ แฟนคลับ เต็มอิ่ม! ใจฟู! กันถ้วนหน้า กับ THEE PAUSE B.O.B Blend Of Brothers Concert ครั้งแรกบนเวทีเดียวกันของ ธีร์ ไชยเดช และ
๑๖:๐๐ EMMA CLINIC เผยศัลยกรรม ทางเลือกเพื่อดึงความมั่นใจด้านความงาม อยากเปลี่ยนชีวิตใหม่ ต้องปั้นความเป๊ะปัง! แบบธรรมชาติ เจ็บน้อย
๑๖:๔๐ OMODA JAECOO พา JAECOO 6 EV คว้ารางวัล BEST OFF ROAD EV ในงาน CAR OF THE YEAR 2025 ประกาศความมุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต
๑๖:๓๙ ฟูจิฟิล์ม ประเทศไทย ร่วมส่งเสริมการตรวจคัดกรองวัณโรคในกลุ่มผู้ที่มีเชื้อ HIV ภายใต้แนวคิด กำแพงสังคมที่มองไม่เห็น ด้วยนวัตกรรมชุดตรวจ Urine
๑๖:๐๐ กทม. แจงหลักเกณฑ์ตั้งป้ายรถเมล์ คำนึงถึงความเหมาะสมกายภาพทางเท้า-ความสะดวกประชาชน