กรุงเทพ--4 ส.ค.--ก.พ.
วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม 2540 เวลา 14.00 น. ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี (พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ครั้งที่ 7/2540 ณ ห้อง ประชุม 1 สำนักงาน ก.พ.
นายอุดล บุญประกอบ เลขาธิการ ก.พ. แจ้งว่าการประชุม ก.พ. ในครั้งนี้ ที่ประชุมฯ ได้พิจารณาในเรื่องสำคัญ ๆ ดังนี้1. การทบทวนบทบาท ภารกิจ และหน้าที่ของส่วนราชการ
ในการทบทวนบทบาท ภารกิจ และหน้าที่ของส่วนราชการ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูประบบราชการนั้น เป็นเรื่องที่ ก.พ. ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะจากการประชุมหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมา ที่ประชุมฯ ได้มีมติเห็นชอบในหลักการให้ถ่ายโอนงานด้านต่าง ๆ ของกระทรวง ทบวง กรม ไปยังองค์กรท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ ที่ประชุมฯ ได้ให้ความเห็นชอบที่จะให้กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมการสังคมถ่ายโอนงานให้องค์กรท้องถิ่นรับไปดำเนินการแทนทั้งหมด 8 ลักษณะงาน เป็นภารกิจที่อยู่ใน 6 กอง ดังนี้คือ
1. กองสวัสดิการสงเคราะห์
- การจ่ายเบี้ยยังชีพสำหรับผู้สูงอายุ
- ศูนย์บริการทางสังคมสำหรับผู้สูงอายุ
- การสงเคราะห์และจัดสวัสดิการคนไร้ที่พึ่ง
2. กองบริการชุมชน กองสงเคราะห์เด็กและบุคคลวัยรุ่น
- การสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อย
3. กองสงเคราะห์เด็กและบุคคลวัยรุ่น กองคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
- การคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
4. สำนักงานคณะกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ
- การจ่ายเบี้ยยังชีพคนพิการ
5. กองสงเคราะห์ผู้ประสบภัย
- การสงเคราะห์ผู้ประสบภัย
6. กองการสังคมสงเคราะห์เอกชน
- ศูนย์สงเคราะห์ราษฎรประจำหมู่บ้าน
ส่วนงานที่เห็นควรให้ถ่ายโอนออกไปสู่เอกชนนั้น เป็นงานด้านการบริการสินเชื่อของกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ โดยกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมได้ประสานกับธนาคารกรุงไทย (มหาชน) รับไปดำเนินการต่อไป
อนึ่ง ก.พ. ได้เห็นชอบในการโอนภาระหน้าที่ของสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทรวม 3 ภารกิจ คือ (1) โครงการก่อสร้างถนนในหมู่บ้าน (2) โครงการเร่งรัดการขยายระบบประปาชนบท (3) การบำรุงรักษาบ่อน้ำบาดาลและเครื่องสูบน้ำมือโยก รวมทั้งโอนงบประมาณที่ใช้เพื่อการนี้ จำนวน 3,810 ล้านบาท ให้ อบต.ดำเนินการตั้งแต่ปีงบประมาณ 2541 โดยขอให้แปรญัตติเพื่อเปลี่ยนเป็นงบประมาณประเภทอุดหนุนทั่วไป2. แนวทางการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีภาคเอกชน
ที่ประชุม ก.พ. มีมติให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อยกระดับอาชีพนักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทั้งของภาครัฐและเอกชน 2 ประการคือ (1) การจูงใจด้วยมาตรการภาษี โดยสามารถหักค่าใช้จ่ายสำหรับค่าจ้างทำการวิจัยและพัฒนาได้ 2 เท่าในการคำนวณภาษีเงินได้ และ (2) การออกใบอนุญาตการทำงานให้แก่นักวิจัยและพัฒนาชาวต่างชาติ โดยเพิ่มบริการของศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน (work permit) ให้ครอบคลุมถึงนักวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อเป็นมาตรการเชื้อเชิญ ดึงดูดบุคลากรที่มีการรู้ความสามารถเข้ามา และปรับปรุงกระบวนการขออนุญาตให้อยู่ต่อในราชอาณาจักร และการออกใบอนุญาตทำงานสำหรับนักวิจัยและพัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชาวต่างชาติและชาวไทยที่ถือสัญชาติอื่นแต่ต้องการที่จะกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทยให้สามารถต่ออายุใบอนุญาตทำงานได้มากกว่า 1 ปี ซึ่งต้องแก้ไขพระราชกฤษฎีกาและกฏกระทรวงที่เกี่ยวข้องต่อไป3. การปรับปรุงงานภาคราชการเพื่อสนับสนุนการส่งออก : โครงการนำร่อง Product Champion
นายอุดล บุญประกอบ ชี้แจงว่า คณะกรรมการปรับปรุงงานภาคราชการเพื่อสนับสนุนการส่งออกได้เสนอโครงการนำร่อง Product Champion ซึ่งโครงการนำร่อง Product Champion นี้ มาจากแนวคิดของภาคธุรกิจ เป็นการดำเนินงานด้านการผลิต โดยผู้รับผิดชอบอาจจะอยู่ในภาคการผลิต ภาคการตลาด หรือภาค R&D สำหรับในภาคราชการอาจจะให้กระทรวงใดกระทรวงหนึ่งเป็น Product Champion ในสินค้าบางชนิด และดำเนินการจนครบวงจร
การดำเนินการของคณะกรรมการปรับปรุงงานภาคราชการเพื่อสนับสนุนการส่งออกได้หารือกับหัวหน้าส่วนราชการแกนนำที่เกี่ยวข้อง อันได้แก่ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และปลัดกระทรวงพาณิชย์แล้ว ปรากฏว่าปลัดกระทรวงทั้ง 3 ท่าน เห็นชอบด้วยในหลักการโดยได้เลือกตัวสินค้า ดังนี้
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับเป็น Product Champion ในสินค้ายางพารา ผลไม้ส่งออก (ทุเรียน ลำไย) และไม้ดอก (กล้วยไม้)
กระทรวงอุตสาหกรรมรับเป็น Product Champion ในสินค้าอ้อยและน้ำตาลทราย
กระทรวงพาณิชย์รับเป็น Product Champion ในสินค้าอัญมณี เครื่องประดับและเครื่องแต่งกาย
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพาณิชย์จะได้จัดองค์กรเป็นการภายในให้รองรับการทำงานแนวใหม่ และประสานงานกันอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงเจ้าของงานเดิม กับเจ้าของกระทรวงงานใหม่ ตลอดจนการมีประกาศกระทรวงมอบอำนาจการเป็นเจ้าพนักงานของรัฐให้กระทรวงเจ้าของงานใหม่เป็นเจ้าของงานใหม่แทน
นายอุดลฯ ได้แจ้งเพิ่มเติมว่า ก.พ. ได้พิจารณาเรื่องนี้แล้ว เห็นชอบด้วย โดยขอให้จัดทำ Product อื่นที่มีศักยภาพในการนำเงินตราเข้าประเทศเพิ่มเติม พร้อมกับศึกษาเรื่องกระทรวงมิติ (MITI) ด้วยทั้งนี้ ได้ขอให้นำเรื่องนี้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป--จบ--