กรุงเทพ--27 มี.ค.--สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ
นายอาทร จันทวิมล เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ซึ่งจะจัดระหว่างวันที่ 6 - 20 ธันวาคม 2541 โดยมีประเทศที่เป็นภาคีสมาชิกเข้าร่วมการแข่งขัน 44 ประเทศนั้น เพื่อให้ผู้เข้าร่วมการแข่งขันและสื่อมวลชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศได้เห็นคุณค่าของศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณีของชาติไทย ซึ่งแสดงออกในรูปของศิลปะการแสดง นิทรรศการ การสาธิต ฯลฯ รวมทั้งให้ความบันเทิงแก่นักกีฬาและสื่อมวลชนจากชาติต่าง ๆ ที่เข้าร่วมแข่งขันและมาทำข่าว อันจะก่อให้เกิดความสมานฉันท์ระหว่างพี่น้องชาวเอเชี่ยนด้วยกัน คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 จึงได้มอบให้ทางกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นฝ่ายพิธีการและการแสดงมอบหมายและแต่งตั้งให้สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ เป็นคณะกรรมการสาขาวัฒนธรรมและการแสดง รับผิดชอบดูแลการจัดการแสดง นิทรรศการและการสาธิตทางวัฒนธรรม ให้แก่นักกีฬา เจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่พักอยู่ ในหมู่บ้านนักกีฬาและที่ปฎิบัติหน้าที่ ณ INTERNATIONAL ZONE ซึ่งเป็นเหมือนสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ตลอดระยะเวลาการแข่งขันครั้งนี้
อนึ่ง ในการจัดการแสดงทางวัฒนธรรม นั้น ทาง สนง.ฯ วัฒนธรรมแห่งชาติ ได้เตรียมจัดให้มีการแสดงนาฎศิลป์ดนตรีพื้นบ้านของทุกภาคเพื่อให้นักกีฬา เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชนต่างชาติได้เห็นถึงความหลากหลายของการแสดงแต่ละพื้นถิ่นของเรา ขณะเดียวกันก็จะจัดให้มีการแสดงจากประเทศที่เคยเป็นเจ้าภาพจัดงานเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ผ่านมาด้วย 3 ประเทศ คือ อินเดีย ญี่ปุ่น และเกาหลี รวมทั้งจะจัดการแสดงที่ร่วมสมัยของไทยในปัจจุบันให้ชาวต่างชาติได้สัมผัส
ส่วนนิทรรศการและการสาธิตจะมีการสาธิตและนิทรรศการเครื่องจักรสานประเภทต่าง ๆ การสาธิตนวดแผนโบราณ การนวดไทยสำหรับนักกีฬา การนวดตนเองและดัดตน การประคบ การอบสมุนไพร การสาธิตการละเล่นพื้นบ้านและกีฬาไทย เช่น แข่งม้าศึก วิ่งกระสอบ วิ่ง 3 ขารถม้าชาวเสียม ตระกร้อเตะทน เป็นต้น
ผลจากการจัดการแสดง นิทรรศการและการสาธิตทางวัฒนธรรมครั้งนี้ คาดว่านอกจากสร้างความรู้ความบันเทิงแก่ นักกีฬา สื่อมวลชน เจ้าหน้าที่ชาวไทย ชาวต่างประเทศแล้ว ยังเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมซึ่งกันและกันในประเทศภาคสมาชิกข้อสำคัญทำให้ชาวต่างชาติได้มีความรู้ความเข้าใจและเห็นคุณค่าในศิลปวัฒนธรรม และขนบธรรมเนียมตามประเพณีของไทยดียิ่งขึ้น--จบ--