กรุงเทพ--29 ก.ค.--ไทยออยล์
ไทยออยล์กู้เงินนอกเพื่อโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันดีเซล ลุยสร้างหน่วยขจัด กำมะถันหน่วยใหม่ สนองตอบนโยบายของรัฐในการรักษาสภาพแวดล้อมทางอากาศ พร้อม เดินเครื่องสิงหาคม 2541
นายเกษม จาติกวณิช ประธานกรรมการและกรรมการอำนวยการบริษัท ไทยออยล์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญากู้เงินจากสถาบันการเงินต่างประเทศ 19 แห่ง วงเงิน 216 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7,000 ล้านบาท) ระยะชำระคืนเงินต้น 7 ปี ที่อัตราดอกเบี้ย LIBOR (London Inter Bank Offer Rate) +0.90% ต่อปี เพื่อใช้ในการก่อสร้างหน่วยขจัดน้ำมันกำมะถันในน้ำมันดีเซลหน่วยที่ 2 (Hydrodesulphurisation : HDS) และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท การกู้เงิน ครั้งนี้นับได้ว่าเป็นความสำเร็จอีกครั้งหนึ่งของไทยออยล์ เพราะได้รับการสนับสนุนจาก สถาบันการเงินต่างประเทศถึง 19 แห่ง ซึ่งให้การยอมรับและเชื่อถือในการดำเนินงานของ บริษัทฯ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเป็นอย่างดี
นายเกษมได้กล่าวว่า บริษัทฯ จะต้องเร่งนำเงินดังกล่าวมาใช้ในการเข้าเครี่อง จักรอุปกรณ์และเตรียมงานก่อสร้างหน่วยขจัดกำมะถันในน้ำมันดีเซลหน่วยใหม่ ซี่งมีมูลค่า การลงทุน 4,200 ล้านบาท เพื่อให้มีกำหนดแล้วเสร็จตามแผนงานที่กำหนดไว้ในราวเดือน สิงหาคม 2541 ซึ่งเมื่อเริ่มเดินเครื่องหน่วยดังกล่าวแล้ว ไทยออยล์จะสามารถผลิตน้ำมันดี เซลที่มีปริมาณกำมะถันร้อยละ 0.05 โดยน้ำหนักได้ ซึ่งจะเป็นการช่วยรักษาสภาวะแวดล้อม ทางอากาศให้ปลอดมลพิษได้ทั่วทั้งประเทศ
ปัจจุบันไทยออยล์มีกำลังการผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปรวมประมาณ 35 ล้านลิตรต่อวัน โดยเป็นกำลังการผลิตน้ำมันดีเซลประมาณ 18 ล้านลิตรต่อวันหรือร้อยละ 50 ของผลิตภัณฑ์ น้ำมันทั้งหมด
นายเกษมยังเปิดเผยถึงมาตรการด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมของโรงกลั่นนอกเหนือ จากการก่อสร้างหน่วยขจัดกำมะถันในน้ำมันดีเซลเพื่อรักษาสภาพอากาศแล้ว ยังมีการปรับ ปรุงคุณภาพระบบบำบัดน้ำทิ้งให้สามารถบำบัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่องในปริมาณที่ เพิ่มขึ้นเป็น 200 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจะรองรับน้ำเสียจากทุกกระบวนการของ โรงกลั่น ทั้งจากหน่วยไฮโดรแครกเกอร์หน่วยใหม่ ซึ่งเริ่มเดินเครื่องแล้วตั้งแต่กลางเดือน มิถุนายนที่ผ่านมา และหน่วย HDS หน่วยใหม่ ตลอดจนน้ำเสียจากโรงกลั่นน้ำมันหล่อลื่นพื้น ฐาน บริษัท ไทยลู้บเบส จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือไทยออยล์ รวมทั้งหน่วยที่จะ ขยายเพิ่มขึ้นในอนาคตด้วย โดยคาดว่าการปรับปรุงดังกล่าวจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2541 โดยน้ำที่ผ่านระบบบำบัดของโรงกลั่นจะถูกนำมาใช้หมุนเวียนใช้งานในโรงกลั่นด้วย นับเป็นมาตรการประหยัดน้ำได้อีกทางหนึ่ง--จบ--
- พ.ย. ๒๕๖๗ Hattha Bank ประสบความความสำเร็จในการขายหุ้นกู้สกุลเงินบาทอีกครั้ง
- พ.ย. ๒๕๖๗ ฟิทช์คงอันดับเครดิตภายในประเทศของสถาบันการเงินไทยที่ไม่ใช่ธนาคารที่เป็นบริษัทลูกของสถาบันการเงินต่างประเทศ 3 แห่ง
- พ.ย. ๒๕๖๗ ฟิทช์คงอันดับเครดิตภายในประเทศของ 5 สถาบันการเงินไทยที่ไม่ใช่ธนาคารซึ่งเป็นบริษัทลูกของสถาบันการเงินต่างประเทศ และประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบสำหรับ บล.โนมูระพัฒนสิน