กรมทะเบียนการค้าจ้างสถาบันวิจัยฯ ปตท. 22.5 ล้านบาท ศึกษายกเลิกสารเติมแต่งในดีเซลกำมะถันต่ำ

ศุกร์ ๒๖ มีนาคม ๑๙๙๙ ๐๙:๔๑
กรุงเทพ--26 มี.ค.--ปตท.
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2542 เวลา 11.30 น. ที่อาคารสำนักงานใหญ่ การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) นายนรวัฒน์ สุวรรณ อธิบดีกรมทะเบียนการค้า และนายเมตตา บันเทิงสุข รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายและพลังงานแห่งชาติ เป็นประธานร่วมในพิธีลงนามสัญญาจ้าง "โครงการศึกษาผลกระทบของการใช้สารเติมแต่ง ประเภทล้างทำความสะอาด หัวฉีดน้ำมันดีเซลกำมะถันต่ำ" ในวงเงิน 22.5 ล้านบาท ระหว่าง กรมทะเบียนการค้า ผู้ว่าจ้างและสถาบันวิจัยและเทคโนโลยี ปตท.ผู้รับจ้างทำการศึกษาวิจัยในโครงการดังกล่าว
อธิบดีกรมทะเบียนการค้าเปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับลดปริมาณกำมะถันในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วลงจากเดิมประมาณ 0.25% โดยน้ำหนักเหลือไม่สูงกว่า 0.05% โดยน้ำหนักนั้น ซึ่งจะต้องเติมสารเติมแต่งช่วยหล่อลื่น (Lubricity additive) เพิ่มจากเดิมที่สารเติมแต่งชะล้างหัวฉีด (Detergent additive) อยู่แล้วนั้นตามหลักวิชาการเมื่อคุณภาพน้ำมันดีขึ้นจะช่วยลดความสกปรกของหัวฉีดลง จึงอาจยกเลิกการเติมแต่งประเภทชะล้างทำความสะอาดหัวฉีด (Detergent Additive) ได้ ซึ่งในการนี้ จำเป็นต้องมีการศึกษาผลกระทบของการเลิกใช้ที่อาจเกิดต่อเครื่องยนต์ ดังนั้น กะทรวงฯ จึงได้ว่าจ้างให้สถาบันวิจัยและเทคโนโลยี ปตท. ดำเนินการศึกษาฯ โดยได้รับเงินอุดหนุนจาก กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ซึ่งหากผลการศึกษาวิจัย สรุปได้ว่าสามารถยกเลิก Detergent Additive ในน้ำมันดีเซลกำมะถันต่ำได้ โดยไม่มีผลกระทบ จะช่วยให้ประเทศประหยัดเงินตราต่างประเทศได้ถึงปีละกว่า 1,000 ล้านบาท เนื่องจากสารเติมแต่งชนิดนี้ต้องนำเข้า
นายแสวง บุญญาสุวัฒน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยฯ ปตท. ชี้แจงขอบเขตของงานวิจัย ว่า สถาบันฯ จะทำการศึกษา คุณสมบัติน้ำมันดีเซลหมุนเร็วปริมาณกำมะถัน 0.25% และ 0.05% โดยน้ำหนักจากโรงกลั่นในประเทศ 6 แห่ง ศึกษาคุณสมบัติของสารเติมแต่งชะล้างหัวฉีด และสารเติมแต่งช่วยหล่อลื่นทดสอบภาคสนามรถยนต์ดีเซลขนาดเล็ก และใหญ่ วิเคราะห์สิ่งสกปรกที่หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง และวิเคราะห์ปริมาณสารมลพิษจากไอเสียรถยนต์ ซึ่งงานทั้งหมดนี้จะใช้เวลา 12 เดือน นับจากวันลงในสัญญา
ทั้งนี้ ด้วยศักยภาพของสถาบันวิจัยฯ ปตท. ทั้งในด้านนักวิจัยความรู้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มีคุณภาพ และเครื่องมือ อุปกรณ์การวิจัยในห้องปฏิบัติการที่ทันสมัยและใช้เทคโนโลยีสูง สถาบันวิจัยฯ ปตท. มีขีดความสามารถและความพร้อมที่จะดำเนินการศึกษาวิจัย เพื่อสนองนโยบายรัฐให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน องค์กรและประเทศชาติ โดยรวมได้อย่างสมบูรณ์--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๑๒ ฉลองเทศกาลตรุษจีนปีงูเล็ก ที่โรงแรมดุสิตธานี กระบี่ บีช รีสอร์ท
๑๗:๐๐ IMPACT เผยปี 68 ข่าวดี! โครงการ Sky Entrance รถไฟฟ้าสายสีชมพูมาตามนัด หนุนทราฟฟิคแน่น - จับมือพาร์ทเนอร์
๑๗:๕๒ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม สนับสนุนโครงการ กู้วิกฤตและอนุรักษ์พะยูน ครั้งที่ 2
๑๗:๕๘ แสนสิริ เจ้าตลาดคอนโดแคมปัส อวดโฉม ดีคอนโด วิวิด รังสิต คอนโดใหม่ตรงข้าม ม.กรุงเทพ
๑๖:๔๓ เอ็นไอเอ - สสส. ดึงนิวเจน สรรค์สร้างนวัตกรรมส่งเสริมสุขภาพ ในแคมเปญ The Health Promotion INNOVATION PLAYGROUND
๑๗:๕๘ กรมวิทย์ฯ บริการ เร่งพัฒนาระบบ e-Learning ยกระดับการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศ
๑๖:๕๘ เขตจตุจักรกวดขันคนไร้บ้านเชิงสะพานข้ามคลองบางซื่อ สร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน
๑๗:๑๗ เขตพระนครประสานกรมเจ้าท่า-เอกชน เร่งปรับปรุงภูมิทัศน์ท่าเรือสุพรรณเดิม
๑๗:๔๐ กทม. กำชับเจ้าของอาคารตรวจสอบโครงสร้างบันไดเลื่อน เพิ่มความปลอดภัยประชาชน
๑๖:๓๗ แลกเก่าเพื่อโลกใหม่ ช้อปคุ้ม พร้อมลดหย่อนภาษี! 'เปลี่ยนของเก่าเป็นความคุ้ม' ผ่าน Easy E-Receipt ได้ที่โฮมโปร เมกาโฮม