กรุงเทพ--18 ธ.ค.--กปภ.
(เช้าวันนี้) นายพินิจ จารุสมบัติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.5) และคณะเดินทางไปยังสถานที่ก่อสร้างโครงการประปาปทุมธานี-รังสิต จ.ปทุมธานี เพื่อตรวจดูความคืบหน้าของโครงการ พร้อมทั้งกำชับให้เร่งดำเนินการเพื่อให้แล้วเสร็จทันตามกำหนด สามารถให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างทั่วถึงและเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ที่จะมาถึงในเร็ว ๆ นี้
นายพินิจ จารุสมบัติ เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมว่า โครงการเอกชนร่วมลงทุนการก่อสร้างประปาปทุมธานี-รังสิต เป็นโครงการแรกที่การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เปิดโอกาสให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในการก่อสร้างระบบการผลิตน้ำประปาและจำหน่ายน้ำประปาให้แก่ กปภ. โดยใช้การดำเนินการในรูปแบบ BOT คือ ให้เอกชนลงทุนออกแบบก่อสร้างระบบประปา ดูแลรักษาระบบผลิตเป็นระยะเวลา 25 ปี นับจากวันดำเนินการจ่ายน้ำประปาเป็นต้นไป และโอนทรัพย์สินให้แก่ กปภ. เมื่อครบระยะเวลาตามสัญญาร่วมลงทุน
สำหรับโครงการนี้จะใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้นประมาณ 4,300 ล้านบาท สามารถผลิตและจำหน่ายน้ำให้แก่ กปภ.ได้สูงสุดวันละ 288,000 ลูกบาศก์เมตร โดยในปีแรก กปภ.จะรับซื้อจากโครงการนี้ในอัตราเฉลี่ยประมาณ 220,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพื่อส่งน้ำไปบริการประชาชนอีกต่อหนึ่ง ขณะนี้การก่อสร้างได้คืบหน้าไปแล้วกว่า 90% ซึ่งได้สั่งการให้เร่งดำเนินการในส่วนที่เหลือโดยเร็ว คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถให้บริการน้ำประปาได้ในราวกลางปี 2541
นายพินิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันจังหวัดปทุมธานียังจำเป็นต้องอาศัยน้ำจากบ่อบาดาลมาใช้ในการผลิตน้ำประปาโดยทำการเจาะบ่อบาดาลหลายแห่ง ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ นอกจากนี้คุณภาพของน้ำบาดาลบางบ่อก็ยังไม่ได้มาตรฐานเท่าที่ควร โครงการดังกล่าวนี้จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำให้แก่ประชาชนชาวจังหวัดปทุมธานีได้เป็นอย่างดี โดยคาดว่าสามารถให้บริการน้ำประปาที่มีคุณภาพได้มาตรฐานแก่ประชาชนในทุกพื้นที่ของจังหวัดปทุมธานี และเพียงพอสำหรับการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์อย่างแน่นอน สำหรับอัตราค่าน้ำประปา ก็คงจะเป็นราคาที่สะท้อนการลงทุนแต่จะพยายามให้ผู้ใช้น้ำประเภทที่อยู่อาศัยได้รับผลกระทบน้อยที่สุด--จบ--