กรุงเทพ--10 มี.ค.--บมจ.ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารกรุงไทยไม่มีนโยบายปรับลดพนักงาน เผยตลอด 5 ปีที่ผ่านมาได้คงอัตรากำลังพนักงานในขณะที่ยังคงขยายงานต่อเนื่อง ปัจจุบันมีจำนวนพนักงานโดยเฉลี่ย 21 คนต่อสาขา อยู่ในอันดับ 3 ของธนาคารพาณิชย์ และได้จ้างบริษัทชั้นนำเป็นที่ปรึกษาในการประเมินผลการทำงาน
นางสุมนา วงษ์กะพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายพนักงาน บมจ.ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยถึงนโยบายด้านการพนักงานของธนาคารในปีนี้ว่า แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลง ธนาคารยังคงไม่มีนโยบายปลดพนักงาน แต่ใช้มาตรการเรียกร้องพนักงานให้เพิ่มประสิทธิภาพและทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้สามารถแข่งขันในธุรกิจได้ รวมทั้งให้ช่วยกันระดมเงินฝากและลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็น
"ต้นทุนด้านพนักงานนับเป็นต้นทุนที่สูงที่สุดรองจากต้นทุนด้านดอกเบี้ย ธนาคารจึงได้พยายามลดต้นทุนด้านนี้ลง โดยคงอัตราพนักงานที่ 15,880 คน ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา แต่ยังคงขยายงานและเปิดสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้การเกลี่ยพนักงานระหว่างสาขาในเขต และฝ่ายงานในสายงานเดียวกัน รวมทั้งเกลี่ยพนักงานจากสำนักงานใหญ่ไปสาขา จนขณะนี้มีพนักงานโดยเฉลี่ย 21 คน ต่อสาขา อยู่ในอันดับ 3 เมื่อเทียบกับธนาคารต่าง ๆ "
นอกจากนี้ธนาคารยังได้จัดโครงการร่วมใจจากกัน 3 ครั้ง เพื่อให้พนักงานลาออกจากธนาคารก่อนเกษียณอายุงาน โดยเริ่มครั้งแรกในปี 2536 มีพนักงานสมัครใจลาออกจำนวน 420 คน ครั้งที่ 2 ในปี 2539 จำนวน 422 คน และครั้งที่ 3 ในปี 2540 จำนวน 494 คน นอกจากนี้ ธนาคารยังได้แยกผ่ายงานที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจโดยตรงของธนาคาร ตั้งเป็นบริษัทในเครือรวม 4 บริษัทได้แก่ บ.กรุงไทยคอมพิวเตอร์เซอร์วิสเซส บ.กฎหมายกรุงไทย บ.บัตรกรุงไทย และบ. กรุงไทยธุรกิจบริการ ซึ่งสามารถเกลี่ยพนักงานไปอยู่บริษัทดังกล่าวจำนวนหนึ่ง ธนาคารจึงไม่มีความจำเป็นต้องลดจำนวนพนักงาน
นางสุมนา ยังเปิดเผยต่อไปว่า ตั้งแต่ปี 2539 ธนาคารได้ปรับเปลี่ยนระบบงานสาขาต่าง ๆ (RE-ENGINEERING) เพื่อให้สามารถบริการลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น ธนาคารได้จัดอบรมพนักงาน ให้มีความรู้ความสามารถและความมั่นใจที่จะรองรับการทำงานในระบบใหม่ มีความพร้อมในการปรับเปลี่ยนโยกย้ายสายงานตามความเหมาะสม และขณะนี้ธนาคารยังได้จ้างบริษัทชั้นนำจากภายนอกมาเป็นที่ปรึกษาในการประเมินผลการทำงานของพนักงานอีกด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด โทร. 653 2726.--จบ--