กรุงเทพ--18 มิ.ย.--ทำเนียบรัฐบาล
วันนี้ เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายอำนวย วีรวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีมอบโล่กิตติมศักดิ์ ประกาศเกียรติคุณนักวิทยาศาสตร์เกษตรดีเด่น ผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับวงการเกษตร สื่อมวลชนผู้เสนอข่าวเกษตรกรดีเด่น และสวนผลไม้มาตรฐานเพื่อการส่งออกดีเด่นประจำปี 2539 พร้อมเปิดสัมมนาทางวิชาการวิยาศาสตร์การกษตรเรื่อง "การเกษตรเพื่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม" จัดโดยสมาคมวิทยาศาสตร์การเกษตรแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปภัมภ์
สมาคมวิทยาศาสตร์การเกษตรฯ เป็นศูนย์รวมทางวิชาการเกษตร ที่ดำเนินงานเพื่อให้บุคคลต่างๆ ได้ทำกิจกรรมร่วมกันในการแก้ปัญหาการเกษตรของประเทศ เป็นศูนย์รวมความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การเกษตร และเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ โดยการจัดประชุม สัมมนา ฝึกอบรม และจัดพิมพ์วารสารเพื่อเผยแพร่ผลงานด้านการเกษตรทุกสาขา ทั้งฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ปัจจุบันสมาคมวิทยาศาสตร์ การเกษตรฯ ได้ร่วมกับสมาคมวิชาชีพด้านการเกษตรสาขาต่างๆ และมูลนิธิวิทยาศาสตร์การเกษตรแห่งประเทศไทย พิจารณาคุณภาพบุคคลและสถาบันที่ทำคุณประโยชน์ต่อวงการเกษตร เพื่อประกาศเกียรติคุณความดีงามให้ปรากฏเป็นประจำทุกปี
รองนายกรัฐมนตรีได้มอบโล่รางวัล พร้อมกล่าวเปิดการสัมมนาฯ ว่า ช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศไทยได้แสดงให้ทั่วโลกทราบถึงศักยภาพและความสามารถด้านการผลิตสินค้าเกษตร ที่ได้ทั้งปริมาณและคุณภาพสูง ตอบสนองความต้องการของตลาดโลกได้เป็นอย่างดี ส่วนหนึ่งของสินค้าเกษตรได้นำไปสู่การใช้เทคโนโลยีเพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัฑ์อุตสาหกรรมการเกษตรที่มีคุณภาพจนสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้ เพิ่มเงินตราต่างประเทศและสร้างรายได้ให้กับประชาชนอย่างมากมาย
รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวต่อไปว่า แม้สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมจะมีคุณภาพสูงเพียงไร แต่อาชีพทำการเกษตรก็ยังคงมีรายได้ต่ำกว่าอาชีพอื่นๆ ซึ่งรัฐบาลตระหนักดีว่าปัญหาของเกษตรกรต้องได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาความยากจนของเกษตรกรที่ต้องเร่งดำเนินการในหลายๆ ด้าน อาทิ การปรับปรุงโครงสร้างการเกษตรให้มีระบบผสมผสาน การเร่งรัดพัฒนาจัดหาแหล่ง น้ำให้เพียงพอกับการผลิตในระบบการเกษตร เพื่อช่วยเพิ่มปริมาณผลผิต การเร่งรัดพัฒนาพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ และระบบการผลิตให้ก้าวหน้ทันสมัยอยู่เสมอ และที่สำคัญคือ จะต้องเร่งพัฒนาสถาบันเกษตรกรให้มีความพร้อมในการผลิตการตลาดและมีอำนาจต่อรองในธุรกิจทางการค้า
อย่างไรก็ตาม รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า การดำเนินงานใดๆ ก็ตามจะไม่สามารถประสบ ความสำเร็จในทางปฏิบัติได้ ถ้าหากไม่ได้รับความร่วมมือร่วมใจและความช่วยเหลือจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรโดยตรง โดยเฉพาะสมาคมวิชาชีพการเกษตรทุกสาขาและนักวิชาการเกษตร ที่จะต้องช่วยชี้นำให้เกิดผลในทางปฏิบัติต่อเกษตรกร จึงขอให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนได้ร่วมกันนำความรู้ความสามารถไปช่วยเหลือเกษตรกร ให้เป็นอาชีพที่มีความมั่นคงและมั่งคั่งกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้
สำหรับบุคคลที่สร้างประโยชน์ให้กับวงการเกษตรในปีนี้มี 11 ท่าน ได้แก่ นายมนตรี ด่านไพบูลย์, นายอุดร ขจรเวหาศน์, ดร.สุทัศน์ ศรีวัฒนพงศ์, มิสเตอร์ชาร์ล วาย วาง, นายพิชัย มณีโชติ, ม.ร.ว.สมานสนิท สวัสดิวัตน์, นายชวลิต วงศ์สว่าง, นายธีระยุทธ์ กันตรัตนากูล, นายประพัฒน์ ปัญญชาติรักษ์, นายบุญเที่ยง สุขนิยม, นายวัชรี จียาศักดิ์ และนายมนตรี คงตระกูลเทียน ส่วนประเภทสื่อมวลชนดีเด่น ได้แก่ รายการดินดำน้ำชุ่มของสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 รายการเกษตรสัมพันธ์ ของกรมส่งเสริมการเกษตร รายการข่าวการเกษตรของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วารสารเทคโนโลยีชาวบ้าน วารสารเคหการเกษตร วารสารส่งเสริมการเกษตร--จบ--