กรุงเทพ--6 ก.ค.--กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ
นายกิตติ วะสีนนท์ รองอธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ณ ศูนย์ข่าว กรมสารนิเทศ มีประเด็นและสาระสำคัญ ดังนี้
1. ทุนการศึกษาจากประเทศตะวันออกกลาง
โดยที่กระทรวงการต่างประเทศตระหนักถึงผลกระทบของวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจต่อโอกาสในการศึกษาต่อต่างประเทศของนักศึกษาไทย จึงได้พยายามที่จะหาทุนการศึกษาจากต่างประเทศให้นักศึกษาไทยไปศึกษาต่อเพื่อเป็นการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของประเทศ นอกจากประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่นแล้ว ประเทศในตะวันออกกลางก็ได้เสนอให้ความช่วยเหลือทางด้านทุนการศึกษาแก่นักศึกษาไทยมุลสิมด้วย ซึ่งเป็นผลมาจากความพยายามและการดำเนินการของ ฯพณฯ นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในการพบปะกับเอกอัครราชทูตฯ และบุคคลสำตัญของประเทศต่าง ๆ โดยในปัจจุบันมี 3 ประเทศที่เสนอให้ทุนการศึกษา คือ อียิปต์ โรร็อกโก และอิหร่าน โดยมีรายละเอียดการให้ทุนดังนี้
1. อียิปต์ เสนอให้ทุนการศึกษา 6 ทุน ไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ณ Al Azhar Universily กรุงไคโร
2. อิหร่าน เสนอให้ทุนการศึกษาไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมศาสตร์ และสาขาแพทย์ศาสตร์ จำนวน 30 ทุน
3. โมร็อกโก เสนอให้ทุนการศึกษาไปศึกษาต่อด้านกฎหมาย จำนวน 5 ทุน และมีโครงการจะจัดสรรทุนด้านอื่น ๆ ให้กับไทยในสาขาวิทยาศาสตร์และการแพทย์เพิ่มเติมด้วย
ขณะนี้ กระทรวงการต่างประเทศโดยความร่วมมือของวิทยาลัยอิสลามศึกษา วิทยาเขตปัตตานี ได้คัดเลือกนักเรียนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อเสนอชื่อเข้ารับทุนของทั้งสามประเทศข้างต้นแล้ว นอกจากนี้ ในระหว่างการเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โอมาน และคูเวตระหว่วงวันที่ 5-11 มิถุนายน 2541 ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ ยังได้เจรจาขอทุนการศึกษา ให้กับนักศึกษาไทยมุสลิมกับประเทศดังกล่าว ด้วย ซึ่งประเทศทั้งสามก็ได้แสดงความพร้อมที่จะพิจารณาด้วยดีในการจัดสรรทุนให้นักศึกษาไทยมุสลิมต่อไป
ปัจจุบันมีนักศึกษาไทยอยู่ในตะวันออกกลางประมาณ 3,000 คน กระจายอยู่ตามประเทศต่าง ๆ อาทิ อียิปต์ ซาอุดิอาระเบีย คูเวต กาตาร์ โมร็อกโก อิหร่าน นักศึกษาไทยในตะวันออกกลางส่วนใหญ่ไปจาก 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีพื้นฐานการศึกษาด้านศาสนาอิสลามและภาษาอาหรับเป็นหลักและส่วนใหญ่ได้รับทุนจากรัฐบาลของประเทศที่ไปศึกษา
อนึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า ขณะนี้ ประเทศในตะวันออกกลางได้ให้ทุนการศึกษาในสาขาอื่น ๆ นอกเหนือจากสาขาด้านภาษาและศาสนาเช่นที่ผ่านมา ซึ่งก็เป็นความตั้งใจของ ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ ที่ประสงค์จะให้นักศึกษาไทยได้รับทุนไปศึกษาในประเทศตะวันออกกลางในสาขาที่หลากหลายมากขึ้น
2. การพัฒนางานการบริการด้านการตรวจลงตราของกระทรวงการต่างประเทศ
โดยที่กระทรวงการต่างประเทศได้ให้ความสำคัญในการบริการประชาชนทั้งภายในประเทศและนอกราชอาณาจักรตลอดมา
ปัจจุบันมีชาวต่างด้าวไปยื่นคำร้องขอรับการตรวจลงตราจากสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่เป็นจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น ที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครกวางโจว ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ มีจำนวนมากกว่า 1,500 คนต่อวัน ทำให้ต้องใช้เวลาในการบริการแก่คนต่างด้าว ซึ่งแต่เดิมตต้องใช้เวลาในการตรวจลงตราอย่างน้อย 3 วัน
กระทรวงการต่างประเทศได้พยายามแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ โดยได้พัฒนาขั้นตอนการตรวจลงตราให้ทันสมัยและรวดเร็วยิ่งขึ้น และพยายามนำเทคนโนโลยีใหม่ ๆ ในการตรวจลงตรามาใช้ อาทิ การนำระบบคอมพิวเตอร์มาใช้ในการตรวจสอบบุคคลต้องห้ามเข้าราชอาณาจักร และการนำระบบ Visa Sticker มาใช้ในการตรวจลงตรา ในสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ 25 แห่ง เพื่อช่วยให้การบริการด้านการตรวจลงตราเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โดยที่ขณะนี้ รัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญในเรื่องการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวและนักลงทุน และจากสถิติ ปรากฎว่า มีนักท่องเที่ยวและนักลงทุนจากประเทศจีนและไต้หวันจำนวนมากประสงค์ที่จะเข้ามาพำนักในราชอาณาจักร (สถิติการตรวจลงตราของบุคคลสัญชาติจีน : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง รวม 59,692 ราย สถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง รวม 73,014 ราย สถานกงสุลใหญ่ ณ นครกวางโจว รวม 239,824 ราย สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ รวม 47,897 ราย สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจ ณ ไทเปรวม 433,119 ราย
เพื่อตอบสนองนโยบายดังกล่าวของรัฐบาล กระทรวงการต่างประเทศจะได้นำระบบการตรวจลงตราโดยใช้เครื่องประทับวีซ่าแบบใหม่ไปใช้ในราชการของสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ในประเทศจีน โดยในชั้นแรกนี้ จะจัดซื้ออุปกรณ์การประทับวีซ่า จำนวน 15 เครื่อง (โดยส่งมอบให้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง 3 เครื่อง นครคุนหมิง 3 เครื่อง และนครกวางโจว 6 เครื่อง) โดยนำรายได้จากงานกงสุลซึ่งสำนักงบประมาณจัดสรรให้ส่วนหนึ่งมาจัดซื้อ การใช้อุปกรณ์ดังกล่าวนอกจากจะสามารถให้บริการตรวจลงตราได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ ผู้มายื่นคำร้องสามารถรับการตรวจลงตราได้ภายใน 1 วันแล้ว ยังสามารถป้องกันการปลอมแปลงการตรวจลงตราได้อีกทางหนึ่งด้วย--จบ--