กรุงเทพ--3 พ.ย.--กรมการปกครอง
นายประมวล รุจนเสรี อธิบดีกรมการปกครอง ชี้แจงว่า จากสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจตกต่ำในภูมิภาพเอเชีย โดยเฉพาะประเทศไทยในขณะนี้ ส่งผลให้พี่น้องประชาชนทุกครัวเรือนต้องประสบกับความยากลำบากเดือดร้อนจากสินค้าอุปโภค บริโภค ราคาแพงขึ้นการจ้างงานลดน้อยลง หลายคนถูกเลิกจ้าง แรงงานจำนวนมากต้องย้อนกลับภูมิลำเนาเข้าสู่แรงงานภาคเกษตรกรรมในสภาวะที่ประชาชนกำลังประสบปัญหาความเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ กรมการปกครอง ได้เร่งระดมทรัพยากรที่มีอยู่รวมทั้งประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง นำมาผนึกกำลังช่วยเหลือประชาชนเป็นการด่วน ทั้งนี้ ได้จัดให้มีการประชุมสัมมนาผู้บริหารส่วนกลาง ตลอดจนการประชุมชี้แจงมาตรการ กรอบ และแนวทางในการช่วยเหลือประชาชนในภาวะเศรษฐกิจถดถอยแก่ปลัดจังหวัด นายอำเภอทั่วประเทศไปแล้วทั้ง 4 ภาค และยังได้จัด "ตลาดนัดจำหน่ายสินค้าราคาถูก" ขึ้น ทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด โดยประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อันได้แก่ กรมการค้าภายใน องค์การคลังสินค้า องค์การตลาดเพื่อการเกษตร องค์การตลาดกระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร เป็นต้น
นอกจากการดำเนินการดังกล่าวแล้ว กรมการปกครองยังได้กำหนดมาตรการช่วยเหลือประชาชนในภาวะเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มเติมขึ้นอีก เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติงานให้กับหน่วยงานและองค์กรของฝ่ายปกครอง ได้แก่ อำเภอ กิ่งอำเภอ สุขาภิบาล อบต. เขต เทศบาล และเมืองพัทยา ซึ่งเป็นหน่วยที่ใกล้ชิดกับประชาชน นำไปใช้บรรเทาทุกข์ ให้แก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมในทุก ๆ ด้าน
มาตรการดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในภาวะเศรษฐกิจถดถอย (เพิ่มเติม) มีดังนี้
1. ด้านการให้บริการประชาชน
- ต้องเสียสละ อุทิศเวลา ให้ความสะดวกและเป็นธรรม เพื่อ "สร้างศรัทธา ช่วยประชามีสุข"
- ให้ยึดหลักการ "รวดเร็ว รอบคอบ รัดกุมและถูกต้อง" ทั้งนี้ต้องไม่สร้างภาระแก่ประชาชน
- ผู้บริหารระดับนายอำเภอ ปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอ ผู้อำนวยการเขต ปลัดเทศบาล และหัวหน้าสำนักปลัดเมืองพัทยา ควรปรับปรุงแก้ไขรูปแบบและวิธีการทำงานให้สั้น กระชับ ชัดเจน เน้นเทคนิคการทำงานเป็นทีมและการประสานงาน
2. ด้านเศรษฐกิจ
- สนับสนุนช่วยเหลือคนว่างงานในท้องถิ่น ให้พิจารณาดำเนินการจ้างแรงงานทดแทนการใช้เครื่องจักรกลเพิ่มขึ้นในกิจกรรมที่สามารถทดแทนกันได้
- สนับสนุนให้เกษตรกรสามารถนำสินค้าการเกษตรมาจำหน่ายให้แก่ประชาชนผู้บริโภคโดยตรง อาทิเช่น การเปิดตลาดกลางสินค้าเกษตรกรรม
3. ด้านสังคม
- ส่งเสริมให้มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน และครอบครัวด้วยการประหยัดและอดออม
- ส่งเสริมให้ชุมชนเป็นกำลังสำคัญในการป้องกันแก้ไขปัญหาอาชญากรรมยาเสพติด ยาบ้า รวมทั้งการแก้ไขปัญหาโรคเอดส์
4. ด้านคุณธรรมและจริยธรรม
- ให้ผู้บริหารของอำเภอ กิ่งอำเภอ และหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น รวมทั้งข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้าง ประพฤติปฏิบัติเป็นตัวอย่างใช้จ่ายอย่างประหยัดและใช้สินค้าที่ผลิตภายในประเทศ
- สนับสนุนการดำเนินงานตามโครงการ แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง กิจกรรมลูกเสือชาวบ้าน เพื่อเสริมสร้างให้เกิดความรู้รักสามัคคี ร่วมมือร่วมใจแก้ปัญหาสังคม
5. ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- ส่งเสริมให้ชุมชน ท้องถิ่น อาสาสมัคร องค์กรเอกชน ประชาชนและส่วนราชการร่วมกันดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- ดำเนินการตามมาตรการประหยัดทรัพยากรธรรมชาติให้ได้ผลอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม เช่น การประหยัดไฟฟ้าภายในอาคารสำนักงาน บ้านเรือน เป็นต้น--จบ--