คอนเนกติกัท--10 เม.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์-เอเชียเน็ท
เมื่อวานนี้บริษัทยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ คอร์ป (ยูทีซี) ได้ประกาศแต่งตั้งนาง รูธ ฮาร์คิน วัย 52 ปี ให้ดำรงตำแหน่งรองประธานระดับสูงฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ และความสัมพันธ์กับรัฐบาล นอกจากนี้ นางฮาร์คินก็จะดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการ ของบริษัทยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ยูทีไอ) ซึ่งเป็นบริษัทตัวแทนระหว่าง ประเทศในเครือของยูทีซี
นางฮาร์คินจะประจำอยู่ที่สำนักงานของยูทีซีในกรุงวอชิงตัน และจะรายงาน ต่อนายจอร์จ เดวิด ประธานและซีอีโอของยูทีซี โดยการแต่งตั้งให้นางฮาร์คินดำรงตำแหน่ง ดังกล่าว จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.นี้ ซึ่งนางฮาร์คินจะเข้ามาดำรงตำแหน่งต่อจากนาย วิลเลี่ยม เอฟ พอล วัย 61 ปี ผู้ที่ได้ประกาศก่อนหน้านี้ถึงความประสงค์ของตนที่จะปลด เกษียณ หลังจากที่ได้ทำงานกับยูทีซีมาเป็นเวลา 42 ปี โดยนายพอลเคยดำรงตำแหน่ง ระดับสูงหลายตำแหน่งในบริษัท ซึ่งรวมถึงประธานบริษัทไซคอร์สกี้ แอร์คราฟต์ และรอง ประธานระดับสูงของบริษัทดังกล่าว ซึ่งเป็นอดีตกลุ่มบริษัทด้านอาวุธเพื่อการป้องกันประเทศ และอวกาศของยูทีซี
ทั้งนี้ ผู้ที่จะรายงานต่อนางฮาร์คิน นอกเหนือจากผู้บริหารของยูทีซีในกรุง วอชิงตันแล้ว ก็จะได้แก่นายเดวิด ซี แมนคี ประธานบริษัทยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ อินเตอร์ เนชั่นแนล โดยนายแมนคีจะยังคงมีหน้าที่รับผิดชอบสำนักงานตัวแทนในต่างประเทศของยูที ไอต่อไป
นายจอร์จ เดวิด ประธานและซีอีโอของยูทีซี ได้กล่าวว่าประสพการณ์และ ความสามารถของนางฮาร์คินในด้านความสัมพันธ์ในธุรกิจระหว่างประเทศ รวมกับความรู้ ของเธอเกี่ยวกับรัฐบาล ได้ทำให้เธอเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่จะเป็นตัวแทนด้านผลประโยชน์ ของทางบริษัทในกรุงวอชิงตันและทั่วโลก นอกจากนี้ ตนก็อยากที่จะใช้โอกาสนี้ขอบคุณนาย บิล พอล สำหรับผลงานที่น่ายกย่องอย่างแท้จริงที่ฝากไว้ให้กับยูทีซี ไม่เพียงแต่เฉพาะใน วงการธุรกิจในกรุงวอชิงตันในช่วง 7 ปีที่ผ่านมาเท่านั้น แต่ตลอดอายุการทำงานกับทาง บริษัท
นายพอลได้เข้ามาร่วมงานกับยูทีซีในส่วนของไซคอร์สกี้ แอร์คราฟต์ ในปี 1955 ในตำแหน่งผู้ดำเนินการแผนงานเครื่องยนต์ และได้ก้าวขึ้นไปสู่ตำแหน่งต่างๆ ที่ รวมถึงตำแหน่งรองประธานฝ่ายวิศวกรรม และรองประธานฝ่ายบริหาร จนมาถึงตำแหน่ง ประธานของไซคอร์สกี้ในปี 1983 โดยในการทำงานกับไซคอร์สกี้นั้น นายพอลได้เป็นผู้นำ ในการออกแบบและพัฒนา และการแนะนำเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์รุ่นใหม่ ซึ่งรวมถึงเครื่อง บินทหารแบล็ค ฮอค, ซี ฮอค, เครื่องบินรุ่นซีเอช-53อี และเครื่องบินพลเรือนรุ่นเอส-76
ในปี 1990 นายพอลได้รับเลือกให้เป็นรองประธานระดับสูงของทางบริษัท ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบกิจการเกี่ยวกับรัฐบาล และในปี 1995 นายพอลได้รับเลือกให้เป็นรอง ประธานฝ่ายบริหารของยูทีซี
ทางด้านนางฮาร์คินนั้น เคยดำรงตำแหน่งเป็นประธานและซีอีโอของบริษัท โอเวอร์ซีส์ ไพรเวท อินเวสต์เมนต์ คอร์ปอเรชั่น (โอพีไอซี) โดยนางฮาร์คินได้รับการ แต่งตั้งจากปธน.คลินตันให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวในปี 1993 ซึ่งตั้งแต่ที่เธอได้เริ่มปฏิบัติ หน้าที่เมื่อ 4 ปีที่แล้ว โอพีไอซีก็ได้ดำเนินการให้เงินสนับสนุนการดำเนินงานต่างๆกว่า 6 พันล้านดอลล่าร์ รวมทั้งในด้านการประกันความเสี่ยงทางการเมืองเป็นเงิน 3.4 หมื่น ล้านดอลล่าร์ โดยในระยะเวลาที่เธอทำงานกับโอพีไอซี โอพีไอซีได้ให้การสนับสนุนโครง การต่างๆทั้งหมด 450 โครงการ และทำกำไร 4 ปีสูงสุดที่ระดับ 725 ล้านดอลล่าร์
ก่อนที่นางฮาร์คินจะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานโอพีไอซี เธอ เป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทกฎหมาย เอคิน, กัมพ์, สเตราส์, ฮอยเออร์ แอนด์ เฟลด์ ซึ่ง เธอได้เริ่มงานที่นั่นในปี 1983 โดยก่อนหน้านั้นเธอดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยที่ปรึกษาทั่วไป ที่กระทรวงการเกษตรสหรัฐ ซึ่งนางฮาร์คินนั้นจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมินนิโซต้า และ ได้รับปริญญาด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยแคธอลิค ยูนิเวอร์ซิตี้ ลอว์ สคูล
ทั้งนี้ ยูทีซีมีสำนักงานกว่า 1,900 แห่งใน 183 ประเทศทั่วโลก จึงทำให้ ทางบริษัทสามารถให้บริการผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีระดับสูงหลายประเภท และให้บริการใน ด้านระบบการก่อสร้าง, ในอุตสาหกรรมรถยนต์และยานอวกาศ โดยผลิตภัณฑ์ของทางบริษัท ได้รวมถึงเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบินของแพร็ตต์ แอนด์ วิทนีย์, ระบบทำความร้อนและ ปรับอากาศแคร์เรียร์, ลิฟต์และบันไดเลื่อนโอติส, เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ของไซคอร์สกี้, ระบบการบินและอวกาศของฮามิลตัน สแตนดาร์ด รวมทั้งส่วนประกอบและระบบของยูที ออ โตโมทีฟ --จบ--
--บิสนิวส์แปลและเรียบเรียง-สจ/กก--