กรุงเทพ--8 ก.ค.--องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย
องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ลงนามในสัญญาร่วมกับ 2 ธนาคารให้เป็นผู้บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฏาคม 2540 ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 7 อาคารสำนักงานใหญ่แจ้งวัฒนะ นายเสถียร ปิตกานันท์ ผู้อำนวยการองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีลงนามในสัญญาระหว่างองค์การโทรศัพท์ฯ กับ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้เป็นผู้จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพขององค์การโทรศัพท์ฯ โดยมีตัวแทนองค์การโทรศัพท์ฯ เป็นผู้ลงนามคือ นายวิทู รักษ์วนิชพงศ์ รองผู้อำนวยการโทรศัพท์ฯ และประธานคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และนายชูศักดิ์ วารีสระ นายกสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจองค์การโทรศัพท์ฯ โดยมีตัวแทนจากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) คือ นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฯ และผู้แทนจากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) คือนายสุวิทย์ อุดมทรัพย์ รองผู้จัดการใหญ่ฯ ร่วมลงนาม
การลงนามในสัญญาร่วมกับ 2 ธนาคารดังกล่าว ในการเป็นผู้บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนี้ เพื่อเป็นหลักประกันทางการเงินในอนาคตสำหรับพนักงานองค์การโทรศัพท์ฯ เมื่อออกจากงาน เกษียณอายุหรือถึงแก่กรรม โดยเกิดจากความร่วมมือระหว่างองค์กรและผู้ปฎิบัติงานในการจ่ายเงินเข้ากองทุนฯ ด้วยการหักเงินเดือน/ค่าจ้างทุกเดือน เพื่อเป็นเงินสะสมเข้ากองทุน ในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3 และไม่เกินร้อยละ 10 ของเดือน และองค์การโทรศัพท์ฯ สมทบให้อัตรา 9% ของผู้ที่มีอายุงานน้อยกว่า 20 ปีและ 10% ของผู้ที่มีอายุงานตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป (จากอัตราเงินเดือนที่ได้) เงินกองทุนจะถูกบริหารโดยผู้จัดการกองทุนที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลัง และได้รับคัดเลือกจากคณะอนุกรรมการกองทุน โดยจะนำเงินไปลงทุนเพื่อให้เกิดผลประโยชน์ตอบแทนสูงสุดต่อสมาชิกภายใต้เงื่อนไขตามพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ.2530
ผลตอบแทนที่สมาชิก จะได้รับจากการจัดตั้งกองทุน คือ มุ่งส่งเสริมการออมเพื่ออนาคตของพนักงานมีหลักประกันที่มั่นคงและสวัสดิการที่ดี และจะได้รับเงินสะสม+เงินสมทบ+ผลประโยชน์ จากเงินดังกล่าวเมื่อออกจากงานหรือเกษียณอายุ ได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีจากเงินสะสมที่จ่ายเข้ากองทุน และเงินสำรองเลี้ยงชีพที่สมาชิกได้รับเมื่อออกจากงาน กฎหมายจะคุ้มครองไม่ให้องค์กรหรือเจ้าหนี้หักใช้หนี้ที่ยังค้างอยู่--จบ--