Set9 : ตลาดหลักทรัพย์แถลงผลการประชุมคณะกรรมการฯ

27 มี.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แถลงถึงผลการประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2541 โดยที่ประชุมได้มีมติในเรื่องแผนงานของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปี 2541 และเรื่องการขอถอนหลักทรัพย์ของบริษัทของบริษัทประมงไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทกรุงไทยอาหารสัตว์ จำกัด (มหาชน) ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดยมีสาระสำคัญดังต่อไปนี้
1. แผนงานของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปี 2541
คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีมติอนุมัติแผนงานของตลาดหลักทรัพย์ปิ 2541 โดยได้คำนึงถึงปัญหาที่ตลาดหลักทรัพย์เผชิญอยู่อันเนื่องจากวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ จึงได้จัดทำมาตรการและแผนงานเพื่อมุ่งให้ผู้เกี่ยวข้องอยู่รอดได้ โดยได้แบ่งแผนงานออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแผนงานเพื่อตอบรับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ (Economic-Crisis Responding Plan) วัตถุประสงค์ที่สำคัญคือการรักษาและขยายรายได้ การลดต้นทุน และการปรับระบบงานให้เหมาะสม และกลุ่มแผนงานเพื่อการพัฒนาต่อเนื่อง (Ongoing Development)มีจุดเน้นของแผน เพื่อการปรับปรุงระบบและการปฏิบัติงานของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและการปรับปรุงตลาดหลักทรัพย์โดยรวม
กลุ่มแผนงานเพื่อตอบรับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ (Economic-Crisis Responding Plan)
มีจุดเน้นของแผน เพื่อการดำเนินอยู่ได้ของผู้เกี่ยวข้องในธุรกิจประกอบด้วย 2 กลยุทธ คือ
1. ปริมาณการซื้อขายที่เพียงพอ
โดยให้มีการรักษาอุปสงค์เก่า และสร้างอุปสงค์ใหม่ ซึ่งมาตรการที่ใช้ ได้แก่ การขยายประโยชน์และเพิ่มความสะดวกในการลงทุน อาทิ การดำเนินการให้สิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนของผู้ถือหุ้นเดิม (Right) สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือในตลาดหลักทรัพย์ได้ การดำเนินการแก้ปัญหาด้านภาษีที่เรียกเก็บกับหุ้นปันผล และการดำเนินการให้บริษัทจดทะเบียนสามารถมี Treasury Stock และซื้อหุ้นของบริษัทคืนได้ โดยตลาดหลักทรัพย์จะเร่งรัดการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นต้น
2. กำหนดจำนวนผู้เกี่ยวข้องในตลาดหลักทรัพย์ที่เหมาะสม
มาตรที่สำคัญได้แก่การพิจารณาทบทวนจำนวนบริษัทสมาชิกที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และภายหลังการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน และศึกษาความเหมาะสมในการให้มีสมาชิกสมทบ (Associated Member) และสมาชิกต่างชาติ (International Member) รวมทั้งการลดต้นทุนของผู้เกี่ยวข้องในตลาดหลักทรัพย์
กลุ่มแผนงานเพื่อการพัฒนาต่อเนื่อง (Ongoing development Plan)
ในการปรับปรุงระบบและการปฏิบัติงานของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ ได้แก่
1. การมีกฎระเบียบที่สามารถถบังคับใช้และสามารถปฏิบัติได้จริง
2. มีกระบวนการทำงานที่กระชับ
3. การจัดสรรบุคลากรใหม่ และการฝึกอบรมเน้นเฉพาะด้าน
ในด้านการปรับปรุงตลาดหลักทรัพย์โดยรวมวัตถุประสงค์ที่สำคัญ การมีองค์ประกอบและระบบตลาดหลักทรัพย์โดยรวมที่มีประสิทธิภาพและมีความหลากหลายของสินค้า
2. การขอถอนหลักทรัพย์ของบริษทประมงไทย จำกัด (มหาชน) (T-FISH) และบริษัทกรุงไทยอาหารสัตว์จำกัด (มหาชน) (KT) ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ตามที่บริษัทประมงไทย จำกัด (มหาชน) (T-FISH) และบริษัทกรุงไทยอาหารสัตว์ จำกัด (มหาชน) (KT) ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ถึงมติคณะกรรมการบริษัทที่จะให้บริษัทขอเพิกถอนหุ้นสามัญของบริษัทออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดยสมัครใจนั้น
คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ได้พิจารณางบการเงินและมติคณะกรรมการบริษัทในเรื่องการขอเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทโดยความสมัครใจแล้วเห็นว่าเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเพื่อความเป็นธรรมกับผู้ถือหุ้นทั่วไป อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 172 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์มีมติกำหนดเป็นเงื่อนไขให้ T-FISH และ KT ต้องดำเนินการดังนี้
1. ให้ T-FISH และ KT จัดให้มีการทำ Due Diligence ถึงฐานะที่ปรึกษาการเงิน และผลประกอบการของบริษัทเพื่อให้ทราบถึงสถานะปัจจุบันและให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นและต่อตลาดหลักทรัพย์เพื่อเผลแพร่ให้ทราบเป็นการทั่วไป
2. ให้บริษัทหลักทรัพย์ แคปปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินอิสระของ T-FISH ตรวจสอบรายการลูกหนี้การค้าต่างประเทศรายใหญ่ว่า รายการค้าที่เกิดขึ้นดังกล่าวเป็นรายการค้าที่เป็นธุรกิจปกติตามเงื่อนไขการค้าโดยทั่วไปหรือไม่และแสดงความเห็นส่งให้ผู้ถือหุ้นพร้อมกับความเห็นของที่ปรึกษาทางการเมืองเกี่ยวกับคำเสนอซื้อเสนอหลักทรัพย์ที่ส่งให้ผู้ถือหุ้นทุกราย
3. ให้ T-FISH และ KT ดำเนินการเพื่อให้มีการจัดทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์จากผู้ถือหุ้นทั่วไปตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด โดยมีระยะเวลารับซื้อหลักทรัพย์สูงสุดคือ 45 วันทำการ
อนึ่ง โดยที่ผู้จัดทำคำเสนอซื้อของ T-FISH และ KT กำหนดวิธีการโดยใช้ราคาตลาดเฉลี่ยย้อนหลัง 90 วันทำการ และ 60 วันปกติ ตามลำดับ จึงเห็นควรให้แจ้งย้ำให้ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระของทั้ง 2 บริษัท ได้ปฏิบัติหน้าที่ในการแสดงความเห็นเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพอิสระและทำหน้าที่เพื่อประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้นอย่างเป็นธรรม
ทั้งนี้ คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์จะพิจารณาเพิกถอนหลักทรัพย์ของทั้ง2 บริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์ เมื่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทได้อนุมัติการขอเพิกถอนหลักทรัพย์ดังกล่าว และผู้เสนอซื้อหลักทรัพย์ได้จัดทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์จากผู้ถือหุ้นทั่วไป รวมทั้งได้ดำเนินการตามเงื่อนขที่คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์กำหนดไว้ดังกล่าวข้างต้นอย่างครบถ้วนแล้ว--จบ--