กรุงเทพ--30 มี.ค.--ธนาคารนครหลวงไทย
นครหลวงไทยประสบความสำเร็จในการเดินทางไปเจรจาต่อรองวงเงินที่ญี่ปุ่นและอเมริกาพร้อมชี้สถานะเป็นธนาคารของรัฐเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้ธนาคารเจ้าหนี้และธนาคารที่มีธุรกิจร่วมกัน
คุณสมโภชน์ อินทรานุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย ได้มอบหมายให้คุณกุณฑล นาคพรหม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เดินทางไปพบกับสถาบันการเงินต่างประเทศในญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา เพื่อชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในธนาคารนครหลวงไทย อาทิเช่น การลดทุน การเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร การเพิ่มทุน การเป็นธนาคารของรัฐ โดยมีกองทุนฟื้นฟูฯ ถือหุ้นใหญ่ 97% ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ธนาคารเจ้าหนี้ และธนาคารที่มีธุรกิจร่วมกันให้เข้าใจด้านนโยบายในการดำเนินธุรกิจของธนาคารต่อไปในอนาคต
การไปให้ข้อมูลและทำความเข้าใจในครั้งนี้ เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เนื่องจากทำให้สถาบันการเงินต่างประเทศที่ไปพบได้ทราบถึงข้อมูลต่าง ๆ โดยตรงแทนที่จะได้รับข่าวสารจากแหล่งอื่น ๆ ซึ่งอาจไม่ชัดเจน ในการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารของธนาคารฯ ครั้งสำคัญมีความจำเป็นที่จะต้องพบปะและทำความเข้าใจเพื่อให้ผู้บริหารของธนาคารต่างประเทศที่มีธุรกิจร่วมกันเกิดความเชื่อมั่นในนโยบายของผู้บริหารชุดใหม่ นอกจากนี้ข้อมูลทั้งหมดที่ธนาคารเหล่านี้ได้รับจะเป็นประโยชน์ในการพิจารณาต่อวงเงิน หรือให้กู้เพิ่มแก่ธนาคารฯ ในโอกาสต่อไป
อย่างไรก็ดีการไปในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยธนาคารที่ไปพบได้แสดงความยินดีที่รัฐบาลได้เข้ามาแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของธนาคารนครหลวงไทยได้สำเร็จ สามารถสร้างความเชื่อมั่นจากผู้ฝากเงินให้กลับคืนมา การเปลี่ยนแปลงหนี้เป็นทุนและเข้ามาถือหุ้นถึง 97% โดยกองทุนฟื้นฟูฯ แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาของสถาบันการเงิน ทำให้การประกาศค้ำประกันผู้ฝากเงินและผู้ให้กู้แก่สถาบันการเงินมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งระยะนี้ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ประกาศออกมา และข่าวเกี่ยวกับประเทศไทย ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจตามแนวทางของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF ได้ผลเป็นที่น่าพอใจทำให้หลาย ๆ ธนาคารแสดงความยินดีและให้ความมั่นใจว่าจะสามารถช่วยเหลือธนาคารได้มากขึ้นในเร็ว ๆ นี้ การไปพบธนาคารที่ญี่ปุ่น 4 ธนาคาร และธนาคารในสหรัฐ 2 ธนาคารฯ ซึ่งมีวงเงินให้กู้ยืมแก่ธนาคารรวม USD 160 ล้าน ได้รับการต่ออายุจำนวน USD 130 ล้าน คิดเป็น 81%
กู้เงินต่างประเทศที่จะครบกำหนดชำระคืนในปีนี้ในช่วงหลังไตรมาสแรกของในปี 2541 จำนวนประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นเงินกู้ระยะยาวและระยะสั้นที่กู้จากสถาบันการเงินต่างประเทศที่มีความสัมพันธ์อันดีกับธนาคารฯ เข้าใจปัญหาของธนาคารฯ
และให้การสนับสนุนมาตลอด ดังนั้นโอกาสที่จะได้กู้หรือกู้เพิ่มจึงมีสูง ธนาคารที่ให้กู้อยู่ในขณะนี้ได้แก่ ธนาคารเยอรมันและญี่ปุ่น แต่ก็มีธนาคารอเมริกาบางแห่งที่ได้ชะลอวงเงินไว้ชั่วคราว ได้เริ่มติดต่อแสดงความจำนงที่จะให้กู้ในรูปของ trade finance บ้างแล้ว ซึ่งนับเป็นข่าวดีอย่างยิ่ง
อนึ่ง ควรหลีกเลี่ยงการใช้คำว่า "ยืดหนี้" เนื่องจากที่ผ่านมาธนาคารต่างประเทศบางรายเข้าใจว่าธนาคารต้องขอเลื่อนวันครบกำหนดชำระเงินกู้ออกไป หรือ reschedule เนื่องจากไม่สามารถชำระเงินกู้คืนได้ ทำให้เกิดข่าวในแง่ลบต่อธนาคาร หากใช้คำว่า "ต่อวงเงิน" หรือ "ขอวงเงินเพิ่ม" จะดีกว่า
นายสมโภชน์ กล่าวสรุปในตอนท้ายว่าการไปในครั้งนี้มิได้มีการเจรจากับสถาบันการเงินต่างประเทศ ในเรื่องการซื้อหุ้นเพิ่มทุนของธนาคารฯ แต่อย่างใด สำหรับเงินกองทุนฟื้นฟูฯ ธนาคารได้ทยอยชำระคืนไปบ้างแล้ว จำนวนประมาณ 4 พันล้านบาท แต่ระยะนี้จำเป็นต้องกันไว้ชำระหนี้เงินกู้ต่างประเทศ ในรูปของ FRCD จำนวน 150 ล้านเหรียญ ซึ่งจะครบกำหนดในเดือนพฤษภาคม หลังจากนั้นคาดว่าจะสามารถชำระคืนกองทุนฯ ได้มากขึ้น แนวโน้มโดยภาพรวมของธนาคารเป็นไปในทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง--จบ--
- พ.ย. ๒๕๖๗ Hattha Bank ประสบความความสำเร็จในการขายหุ้นกู้สกุลเงินบาทอีกครั้ง
- พ.ย. ๒๕๖๗ ฟิทช์คงอันดับเครดิตภายในประเทศของสถาบันการเงินไทยที่ไม่ใช่ธนาคารที่เป็นบริษัทลูกของสถาบันการเงินต่างประเทศ 3 แห่ง
- พ.ย. ๒๕๖๗ ฟิทช์คงอันดับเครดิตภายในประเทศของ 5 สถาบันการเงินไทยที่ไม่ใช่ธนาคารซึ่งเป็นบริษัทลูกของสถาบันการเงินต่างประเทศ และประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบสำหรับ บล.โนมูระพัฒนสิน