ส.ก.ศ. แถลงข่าว "โครงการครูแห่งชาติ" ยุทธศาสตร์สร้างชาติ

อังคาร ๑๒ พฤษภาคม ๑๙๙๘ ๑๓:๕๖
กรุงเทพ--12 พ.ค.--ส.ก.ศ.
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2541 ดร.รุ่ง แก้วแดง เลขาธิการคณะกรรมการศึกษาแห่งชาติ เป็นประธานเปิดงานแถลงข่าว "โครงการครูแห่งชาติ" ณ ห้องสิปปนนท์ เกตุทัต อาคาร 2 ชั้น 2 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ
งานแถลงข่าวในครั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายอมเรศ ศิลาอ่อน ประธานคณะกรรมการปฎิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ได้เข้าร่วมสนทนาพิเศษในหัวข้อ "ครูกับการศึกษาในทศวรรษหน้า" ด้วย
ศาสตราจารย์ ดร.มนตรี จุฬาวัฒนทล ที่ปรึกษาสำนักงานโครงการพิเศษเพื่อการปฎิรูปการฝึกหัดครู พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา เปิดเผยถึงความเป็นมาของโครงการครูแห่งชาติว่า กระทรวงศึกษาธิการได้ตระหนักชัดถึงปัญหาต่าง ๆ ของชาติ เช่น เศรษฐกิจ สังคม วิทยาศาสตร์ การเมือง ฯลฯ ตลอดจนทิศทางของประเทศไทยในอนาคต ล้วนมีความเกี่ยวพันกับปัญหาการศึกษาไม่ทางตรงก็ทางอ้อม เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกว่าในระยะยาวแล้วการศึกษาคือกุญแจในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของชาติอย่างชัดเจนที่สุด และครูก็คือหัวใจของกุญแจนั้น วิสัยทัศน์ที่ยาวไกล, การวางเป้าหมายที่ถูกต้องและเหมาะสมกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามกระแสโลกและการดำเนินการไปสู่เป้าหมายดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน เพื่อให้ชาติได้สร้างประชากรที่มีคุณภาพทัดเทียมกับนานาประเทศ
การจัดการศึกษาเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวจำเป็นจะต้องได้ครูดี ที่มีความรู้ความสามารถ อุทิศตนให้กับงานพัฒนาการเรียนการสอนด้วยจิตวิญญาณของความเป็นครู สำนักงานคณะกรรมการศึกษาแห่งชาติ ได้จัดทำแผนหลักการปฎิรูปการฝึกหัดครู พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งมี 5 แผนงานหลักคือ การสรรหาคนเข้าเรียนวิชาชีพครู การพัฒนาคณาจารย์ทางครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ การปฎิรูปการเรียนการสอบในสถาบันฝึดหัดครูการพัฒนาวิชาชีพครู และการจัดตั้งราชวิทยาลัยราชครุศาสตร์ ให้เป็นองค์กรวิชาชีพครูที่มีประสิทธิภาพ แผนหลักฯนี้ ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีและได้นำไปดำเนินการให้บังเกิดผลในทางปฎิบัติ
โครงการครูแห่งชาติในปีนี้ เป็นโครงการนำร่อง ที่มุ่งพัฒนา "ครู" เป็นหลัก โดยถือหลักง่ายๆ ว่าการที่จะได้ครูที่มีคุณภาพ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทำให้ชีวิตครูมีคุณภาพเสียก่อน ทว่าในปัจจุบัน คุณภาพชีวิตของครูกลับอยู่ในการวิกฤต โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าตอบแทนในวิชาชีพที่ต่ำกว่าอาชีพอื่น ส่งผลให้ความตั้งใจและทุ่มเทในการเรียนการสอนของครูลดต่ำลง อีกทั้งยังไม่สามารถดึงดูดกลุ่มคนที่มีความรู้ให้ก้าวเข้ามาสู่วิชาชีพนี้มากขึ้น ดังนั้นโครงการครูแห่งชาติ จึงถือเป็นยุทธศาสตร์หนึ่งในการสร้างชาติในระยะยาว
วัตถุประสงค์ของ "โครงการครูแห่งชาติ" คือ เพื่อยกย่องและผดุงเกียรติคุณแห่งวิชาชีพครู, เพื่อให้เกิดเครือข่ายในการพัฒนาครู และบุคลากรทางการศึกษา, เพื่อเป็นการยกย่องและให้กำลังใจแก่ครูที่ทำงานหนักและมีผลงานดีเด่น, เพื่อสร้างแรงจูงใจให้คนดี คนเก่ง สนใจเข้าเป็นครู ท้ายสุดเพื่อสร้างบุคลากรครูต้นแบบให้แก่วงการวิชาชีพครู โดยครอบคลุม "ครู" ทุกคน ทุกประเภท ทุกระดับการศึกษา ทั้งจากภาครัฐ เอกชน และองค์กรประชาชน
คุณสมบัติของครูที่จะได้รับคัดเลือกเป็นครูแห่งชาตินั้น จะต้องเป็นครูที่เคยมีผลงานส่งเสริมคุณภาพการศึกษาอย่างเด่นชัด, เป็นครูประจำการในโรงเรียนของรัฐหรือเอกชนไม่น้อยกว่า 5 ปี (ในวันที่ 1 กันยายน 2541) และยังสามารถปฎิบัติหน้าที่เป็นครูประจำการต่อไปอีกไม่น้อยกว่า 3 ปี มีคุณธรรม วินัย เป็นแบบอย่างเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางและจะต้องมีแผนหรือโครงการที่มีลักษณะริเริ่มสร้างสรรค์ที่จะพัฒนาคุณภาพเพื่อนครูและครูรุ่นหลังต่อไป
ส.ก.ศ. ได้ตั้งเป้าหมายในปี 2541 ไว้ว่า จะมีครูแห่งชาติ 14 คน สาขาวิชาละ 2 คน ซึ่งในปีแรกนี้จะเน้นเฉพาะครูมัธยมศึกษาใน 7 สาขาวิชาหลัก คือ วิชาเคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา คอมพิวเตอร์ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ครูแห่งชาติจะได้รับการยกย่อง ประกาศเกียรติคุณ และค่าใช้จ่ายดำเนินการโครงการที่จะดำเนินการต่อไป
นอกจากนี้ยังได้ทำการตั้งเป้าหมายระยะยาว 5 ปี (ปี 2541 - 2545) ไว้ดังนี้ คือภายในระยะเวลา 5 ปี จะมีครูแห่งชาติประมาณ 6,000 คน และจะเน้นครูระดับก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษา มัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และฝึกหัดครูในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นลำดับต่อไป
ด้านกระบวนการคัดเลือกครูแห่งชาตินั้น เริ่มจากการคัดเลือกครูผู้มีผลปฎิบัติงานดีเด่น โดยให้ส่งผลงานในอดีตมาประเมิน ผู้ได้รับการคัดเลือก จะต้องเสนอโครงการที่จะดำเนินการต่อไปในอนาคต เพื่อการพัฒนาการฝึกหัดครู ต่อจากนั้นจะได้รับการยกย่องให้เป็นครูแห่งชาติระดับ 1 และจะเปิดโอกาสให้ครูแห่งชาติระดับ 1 ซึ่งทำงานประสบผลสำเร็จ สามารถส่งผลงานเข้าประเมินเป็นครูแห่งชาติระดับ 2 และครูแห่งชาติระดับ 2 ซึ่งทำงานประสบผลสำเร็จก็สามารถยื่นผลงานเข้าประเมินอีกครั้ง เพื่อเลือกเป็นครูแห่งชาติระดับ 3 โดยโครงการที่ยื่นเสนอตั้งแต่ระดับ 1-3 จะต้องเป็นโครงการที่มุ่งพัฒนาการฝึกหัดครู และ/หรือการศึกษาของชาติโดยรวม ตามเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนด
หลังได้รับคัดเลือก ครูแห่งชาติจะต้องปฎิบัติงานด้านการเรียนการสอนตามปกติ และจะต้องปฎิบัติงานที่เป็นภาระกิจของครูแห่งชาติ ดังนี้ เริ่มจากจะต้องดำเนินโครงการวิจัยและพัฒนาตามที่นำเสนอเช่น การวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน หรือทำหน้าที่ครูต้นแบบ Master Teacher ในการส่งเสริมพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาต่อไป พร้อมยกย่องขึ้นเป็นผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาวิชาชีพครูในโรงเรียนหรือบริเวณใกล้เคียงเพื่อพัฒนารูปแบบการฝึกอบรมพัฒนาบุคลากร
สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อแผนกประชาสัมพันธ์บริษัท โบเซลล์ แพ็ตเตอร์สัน จำกัดโทร. 637-0270 แฟ็กซ์ : 637-0280-2--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version