ไทยอนุญาตให้อินโดนีเซียเปิดสำนักงานติดต่อในสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลิสบอน

ศุกร์ ๑๔ สิงหาคม ๑๙๙๘ ๑๔:๔๘
กรุงเทพ--14 ส.ค.--กรมสารนิเทศ
ตามที่รัฐบาลว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศโปรตุเกสได้พบปะกัน ณ กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 4-5 สิงหาคม 2541 เกี่ยวกับปัญหาติมอร์ตะวันออก และได้มีการบรรลุความตกลงบางประการที่จะเจรจาหารือต่อไปเกี่ยวกับสถานภาพพิเศษของติมอร์ตะวันออกภายใต้ความคุ้มครองของอินโดนีเซีย โดยทางฝ่ายอินโดนีเซียได้เสนอที่จะให้อำนาจในการปกครองตนเองเป็นกรณีพิเศษแก่ติมอร์ตะวันออก และจะให้มีการสำนักงานติดต่อในเมืองหลวงของกันและกันขึ้น นั้น
1. เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2541 กระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียได้ติดต่อสถานเอกอัครราชทูตไทยขอความร่วมมือจากรัฐบาลไทยในการที่รัฐบาลอินโดนีเซียจะเปิดสำนักงานติดต่อของอินโดนีเซียประจำเทศโปรตุเกส ณ กรุงลิสบอน ในสถานเอกอัครราชทูตของไทยโดยฝ่ายอินโดนีเซียจะส่งเจ้าหน้าที่การทูต 2 คน ไปปฏิบัติหน้าที่ในสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลิสบอน โดยทำหน้าที่เป็นสำนักงานติดต่อดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างอินโดนีเซียกับโปรตุเกส ทั้งนี้ อินโดนีเซียแจ้งว่าหากฝ่ายไทยเห็นชอบทางอินโดนีเซียจะติดต่อในรายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อที่ใช้สอยและค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายไทยต่อไป
2. เกี่ยวกับเรื่องนี้ ฯพณฯ นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้นำหารือกัน ฯพณ นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี เมื่อวันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม 2541 ซึ่ง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ได้มีบัญชาอนุมัติให้ดำเนินการตามคำขอของทางรัฐบาลอินโดนีเซีย โดยให้กระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปประจำการในสำนักงานของสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลิสบอนได้ และต่อมากระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงาานจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลิสบอนว่า สามารถจัดหาพื้นที่เพื่อเป็นที่ทำการของเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียได้ ซึ่งในรายละเอียดของการดำเนินการนี้ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายจะได้มีการหารือกันต่อไป
3. หลังจากที่ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม นั้น ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้โทรศัพท์ถึงนายอาลี อาลาตัส รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียเมื่อ วันที่ 11 สิงหาคม แจ้งความเห็นชอบของทางรัฐบาลไทยให้ทางรัฐบาลอินโดนีเซียทราบ ในส่วนของโปรตุเกสจะอาศัยสถานเอกอัครราชทูตของเนเธอร์แลด์ที่ กรุงจาการ์ตา เป็นสำนักงานติดต่อกับทางรัฐบาลอินโดนีเซียต่อไป
อนึ่ง ท่าที่ของรัฐบาลไทยต่อปัญหาติมอร์ตะวันออก มีดังนี้
1. ไทยสนับสนุนการเจรจาแก้ไขปัญหาติมอร์ตะวันออก ระหว่างโปรตุเกสกับอินโดนีเซียโดยสันติวิธีภายใต้การอุปถัมภ์ของสหประชาชาติ
2. ไทยสนับสนุนพัฒนาการล่าสุดของปัญหาติมอร์ตะวันออกและมีความยินดีต่อท่าทีที่ยืดหยุ่นมากขึ้นของอินโดนีเซีย รวมทั้งการมีบทบาทหน้าที่แข็งขันของประเทศสหภาพยุโรปและความพยายามของนานาประเทศ ซึ่งเป็นที่ยอมรับของอินโดนีเซีย ในการแก้ไขปัญหาโดยสันติ
สอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 225-0096 หีอ 225-7900-43--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๐๑ ธนาคารไทยพาณิชย์คว้าแชมป์ธนาคารแห่งปีต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน
๑๓:๐๔ จุฬาฯ ผนึก สมช. และกองทัพเรือ ลงนามความร่วมมือ จัดตั้ง องค์กรจัดการความรู้ทางทะเลของประเทศไทย
๑๓:๓๖ พาราไดซ์ พาร์ค ยกร้านอาหารดังจากเมืองนางาซากิ Ringer Hut (ริงเกอร์ฮัท) และ Hamakatsu (ฮามาคัตสึ) เปิดสาขาใหม่ ชั้น
๑๓:๕๒ สคร.12 สงขลา ร่วมรณรงค์สงกรานต์ ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ เน้นย้ำ ดื่มไม่ขับ ง่วงไม่ขับ คาดเข็มขัดนิรภัย รถตู้โดยสารสาธารณะปลอดภัย
๑๑:๑๐ กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ คว้ารางวัลใหญ่ GRANDE จากเวที ADFEST 2025 จาก แคมเปญสมัครบัตร What the Fast!
๑๑:๒๘ ทรู เปิดพื้นที่อัจฉริยะแห่งอนาคต True Branding Shop โฉมใหม่ ขนทัพเทคโนโลยีล้ำสมัยจากแบรนด์ชั้นนำ ยกระดับทุกมิติไลฟ์สไตล์ดิจิทัล ณ ชั้น 3
๑๑:๐๔ ทัช พร็อพเพอร์ตี้ แนะ 7 แนวทาง อาคารรับมือช่วงมรสุมหลังแผ่นดินไหว จุดไหนต้องเฝ้าระวังเพิ่ม
๑๑:๓๔ OPPO ส่งเสริมเยาวชนพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ร่วมบริจาคอุปกรณ์เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาให้แก่มูลนิธิสันติสุข
๑๑:๓๖ NITMX เผยสถิติการใช้งาน PromptPay มีนาคม 2568 ยอดธุรกรรมแตะ 2.1 พันล้านรายการ หนุนไทยสู่สังคมไร้เงินสด
๑๐:๒๘ NT แนะนำบริการ AWS Migration Assessment and Deployment เพื่อช่วยหน่วยงานภาครัฐ ย้ายโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีขึ้นคลาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด