สจร.รุกแก้ปัญหาจราจรส่งเสริมการท่องเที่ยว

กรุงเทพ--18 มิ.ย.--สจร.
นายกสมาคมมัคคุเทศน์อาชีพและคณะนับร้อยเข้าพบมอบดอกไม้เพื่อขอบคุณ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี นายสมัคร สุนทรเวช รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) และพ.ต.ต.ดร.ยงยุทธ สาระสมบัติ เลขาธิการคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเร่งแก้ปัญหาจราจรที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทยอย่างจริงจังในวันที่ 18 มิถุนายน 2540 นี้
พ.ต.ต.ดร.ยงยุทธ สาระสมบัติ เลขาธิการคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก เปิดเผยว่า สจร.ตระหนักถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจของประเทศซบเซา โดยได้จัดการสัมมนาแก้ไขปัญหาจราจรเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมมือกันแก้ไขปัญหาจราจร เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทย ทั้งนี้ คจร.ได้มอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกรุงเทพมหานครดำเนินงานแก้ปัญหาห้ามรถนักท่องเที่ยวจอดหน้าบริเวณศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ (ท่าน้ำสี่พระยา) โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ออกข้อบังคับจัดระเบียบการจอดรถบริเวณฝั่งตรงข้ามศูนย์การค้าฯ ดังกล่าว (ซอยโรงน้ำแข็งเขตสัมพันธ์วงศ์) ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2540 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ กทม.ได้ดำเนินการติดตั้งป้ายจราจรแสดงจุดและประเภทการห้ามและการอนุญาตให้จอด รถอย่างชัดเจนในบริเวณดังกล่าวแล้ว และเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกวดขันให้เดป็นไปตามข้อบังคับโดยเคร่งครัด
พ.ต.ต.ดร.ยงยุทธ กล่าวว่า สำหรับปัญหาการจอดรถรับส่งนักท่องเที่ยวบริเวณหน้าวัดไตรมิตรวิทยาราม และพื้นที่ใกล้เคียง จะมีการพิจารณาหาแนวทางในการจัดที่จอดรถบัสสำหรับนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมไปมนัสการหลวงพ่อสุโขทัยไตรมิตรเป็นจำนวนมากแต่ไม่ได้รับความสะดวกในการดำเนินทาง โดยจะนำเสนอที่ประชุมเร่งรัดการแก้ไขปัญหาจราจรในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อพิจารณาในครั้งต่อไป
"รัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการแก้ปัญหาจราจรเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เนื่องจากปัจจุบันการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่ทำรายได้ให้กับประเทศไทยเป็นจำนวนมาก รวมทั้งยังเป็นการกระจายรายได้ไปสู่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในส่วนต่างๆ ของประเทศ ดังนั้น การแก้ปญหาและการส่งเสริมจึงต้องดำเนินการโดยเร่งด่วนและต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อรายได้และความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ" พ.ต.ต.ดร.ยงยุทธ กล่าว--จบ--