กรุงเทพ--25 พ.ย.--สมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์
สมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ จัดสัมมนาระดับชาติครั้งที่ 9 เรื่อง "ชี้ทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 2540 หลังการเลือกตั้ง" ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2539 ณ ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ โรงแรมเซ็นทรัลพลาซ่า เพื่อชี้ให้เห็น ว่าเศรษฐกิจไทยหลังการเลือกตั้งจะเป็นไปในทิศทางใด โดยทางสมาคมฯ ได้ระดม ผู้นำทางความคิดจากภาครัฐและเอกชนร่วมชี้แนวทาง และเสนอแนะวิธีแก้ไขปัญหา
นายสถาพร กวิตานนท์ ในฐานะนายกสมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ กล่าวถึงเหตุผลในการจัดสัมมนาในครั้งนี้ว่า ทางสมาคมฯ ได้ตระหนักถึงความ เปลี่ยนแปลงภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศในปัจจุบัน นับวันปัญหาต่าง ๆ ของ สังคมล้วนแต่เชื่อมโยง และมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยทั้งสิ้น ซึ่งต้นเหตุ ของปัญหาเหล่านั้นจะทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ยุควิกฤต และเป็นการเสี่ยงหากไม่ได้รับ การแก้ไขให้ทันท่วงที อาทิเช่น การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่กลายเป็นปัญหาเรื้อรัง มานาน รวมถึงปัญหาการส่งออกและปัญหาตลาดหุ้น
โดย ฯพณฯ อานันท์ ปันยารชุน ให้เกียรติเป็นประธานเปิดการสัมมนา และในงานสัมมนาจะกล่าวถึงทิศทางเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งได้ผู้นำทางความคิดระดับ แนวหน้า อย่าง ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ หนี่งในพรรคร่วมฝ่ายค้าน มาร่วมอภิปราย โดยให้เห็นภาพที่ชัดเจนว่าทิศทางเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยรวม หลังได้รัฐบาล ใหม่จะเป็นอย่างไร และจะมีประเด็นสำคัญเรื่องเศรษฐกิจอย่างไรให้รัฐบาลได้ ดำเนินการบ้าง โดยครอบคลุมตลาดทุกด้านไม่ว่าจะเป็นตลาดเงิน และตลาดทุน พร้อมด้วย ดร.ฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์
สำหรับทิศทางเศรษฐกิจโลก ได้รับเกียรติจาก MR. MUSTAFA MOHATAREM รองประธานบริษัท GM ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลก นับเป็นผู้ มีบทบาททางธุรกิจระดับโลกรายหนึ่งมาร่วมอภิปรายให้เห็นภาพรวมเศรษฐกิจโลกเพื่อ แนวทางในการดำเนินธุรกิจในด้านต่าง ๆ ของไทยให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจโลก
การเจาะลึกทางด้านตลาดเงิน นายเริงชัย มะระกานนท์ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย จะชี้ให้เห็นถึงทิศทางดอกเบี้ยที่หลายฝ่ายต่างคาดคะเนว่า จะปรับขึ้นหรือปรับลง ที่สำคัญคือจะมีการปรับค่าเงินบาทหรือไม่ และมาตรการต่าง ๆ ที่ทางการจะออกมากำกับตลาดเงิน ร่วมกับ นายชาติศิริ โสภณพนิช ผู้เชี่ยวชาญ ด้านการเงินการธนาคารของประเทศมาร่วมอภิปราย
ด้านตลาดหุ้นที่ยังซบเซามาอย่างต่อเนื่องหลายเดือนแล้วนั้น เนื่องจาก รอท่าทีของการเมืองหลังการเลือกตั้งว่าทีมเศรษฐกิจที่จะเข้ามาแก้ปัญหาให้กับประเทศ จะเป็นใคร หากลงตัวแล้วเมื่อเข้ามาบริหารประเทศแล้วจะทำให้ตลาดหุ้นคึกคักและ เรียกวิกฤตศรัทธากลับคืนมาได้เหมือนอย่างในอดีตหรือไม่ ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ และ ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา จะมากระตุ้นแนวความคิดของทุกฝ่ายให้กระจ่างขึ้น
ปัญหาเศรษฐกิจของไทยไม่ใช่แค่ตระหนักถึงเรื่องตลาดทุนและตลาดเงิน เท่านั้น แต่ยังประกอบไปด้วยสาขาเศรษฐกิจที่สำคัญอีกมากมาย อาทิ เรื่องระดับ ราคาสินค้า และ การส่งออกโดยเฉพาะเรื่องของปัญหาการส่งออกที่ประเทศไทย มียอดอัตราการเติบโตลดลง การสัมมนาในเรื่องนี้จึงได้เชิญวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ คือ นายสมพล เกียรติไพบูลย์ และ มรว.ปรีดิยาธร เทวกุล ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ความ สามารถจนเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศมาร่วมอภิปรายในครั้งนี้
เมื่อเศรษฐกิจภาคบริการได้ถูกนำมาเป็นหัวข้อในการอภิปรายให้ทุกฝ่าย ได้เห็นภาพที่ชัดเจนหลังการเลือกตั้งแล้ว ภาคอุตสาหกรรมก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อน ไปกว่ากัน เพราะโครงสร้างของเศรษฐกิจที่แท้จริง ภาคอุตสาหกรรมก็มีความสำคัญ ที่จะนำประเทศไทยไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างแท้จริง ทางสมาคมจึงได้เชิญผู้ทรง คุณวุฒิที่มีแนวความคิดให้ความสำคัญในภาคอุตสาหกรรมอย่าง ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี มือชั้นเซียนที่ชื่อปรากฏอยู่ในโผทีมเศรษฐกิจรัฐบาลชุดนี้ มาร่วมอภิปราย
จากปัญหาหลาย ๆ ด้านที่กำลังรุมเร้าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่ในขณะนี้ จนทำให้นักธุรกิจและนักลงทุนอยู่ในอาการหวั่นวิตก นายธีรพจน์ จรูญศรี ผู้เชี่ยวชาญ ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับแนวหน้าของประเทศไทย จะมาชี้ทิศทางธุรกิจอสังหา ริมทรัพย์ในปี 2540 และเรื่องที่จะมาเติมสีสรรให้กับงานสัมมนาในครั้งนี้จะเป็น เรื่องของทิศทางและผลกระทบทางการเมือง ที่กลายเป็นตัวแปรสำคัญตัวหนึ่งที่มี ผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ และหลังจากได้รัฐบาลชุดใหม่จึงเป็นที่น่าจับ ตามองว่านโยบายทางด้านเศรษฐกิจ และตัวผู้นำที่จะเข้ามาควบคุมดูแลกระทรวง ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ดร.สุจิต บุญบงการ และ ดร.ลิขิต ธีรเวคิน จะเป็นผู้ชี้ภาพทิศทางและผลกระทบทางการเมืองที่จะมีต่อเศรษฐกิจไทย
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในฐานะสถาบันการศึกษาที่ชี้นำแนวทางปัญหา ทางสังคมมาโดยตลอด ตั้งแต่ในเรื่องของการเมืองจนกระทั่งเศรษฐกิจของประเทศ ที่เป็นปัญหาสำคัญไม่แพ้กัน จากความพยายามในการสานต่อเจตนารมณ์ที่ทางมหา วิทยาลัยฯ ได้ดำเนินการมาตลอดระยะเวลากว่าสิบปีว่า เศรษฐกิจเป็นเรื่องที่สำคัญ ควบคู่ไปกับการพัฒนาของสังคมไทย ดังนั้นการเชิญผู้นำทางความคิดที่มาจากหลาก หลายองค์กร ทั้งองค์กรของรัฐและเอกชนมารวมตัวกันในครั้งนี้ เพื่อให้คนไทยตื่นตัว และมองภาพสังคมโดยรวมอย่างกว้างไกล ไม่ใช่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเท่านั้น
นอกจากจะเป็นการกระตุ้นในส่วนบุคคลแล้ว ยังเป็นการเปิดแนวความคิด ของสังคมให้กว้างขึ้น โดยเฉพาะภาครัฐและภาคเอกชนที่ควรจะปรับกระแสความคิด ให้เข้าใจในระบบซึ่งกันและกันมากขึ้น การสัมมนาครั้งนี้จะเป็นช่องทางสำคัญทึ่จะ ช่วยให้ภาครัฐเข้าใจระบบของเอกชน โดยทางสมาคมฯ เล็งเห็นว่า ถ้าภาครัฐ เข้าใจภาคเอกชน และพร้อมที่จะเป็นตัวสนับสนุนเอกชนในทางที่ส่งเสริมกันจะช่วย ให้เศรษฐกิจไทยเจริญรุดหน้ามากขึ้น
งานสัมมนาในครั้งนี้เป็นการรวมมือชั้นเซียนด้านเศรษฐกิจระดับประเทศ มาร่วมชี้แนวทางให้ผู้ฟังได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ และสามารถนำไปเป็นแนวทาง ในการดำเนินธุรกิจต่อไป โดยทางสมาคมฯ ได้จัดให้มีการแปลจากภาษาไทยเป็น ภาษาอังกฤษ และจัดให้มีการถ่ายทอดสดทางไทยทีวีสีช่อง 9 อ.ส.ม.ท. เวลา 9.00-17.30 น.
ผู้สนใจเข้าร่วมสัมมนาติดต่อที่ คุณพรทิพา เจริญลี่นาวา สำนักงานคณะ กรรมการส่งเสริมการลงทุน ชั้น 4 โทร. 537-8168 และ 537-8171 แฟกซ์. 537-8130 หรือ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณอัจฉรา เทวฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ คุณกัญญารัตน์ น้อยจันทร์ ประชาสัมพันธ์ บริษัท คิธ แอนด์ คินฯ จำกัด โทร. 663-3226-9 --จบ--