กรุงเทพ--12 พ.ย.--กรมทะเบียนการค้า
นายนรวัฒน์ สุวรรณ อธิบดีกรมทะเบียนการค้าเปิดเผยว่า กรมทะเบียนการค้าได้ประมาณการสถานการณ์น้ำมันเชื้อเพลิงในเดือนตุลาคม 2540 จากแผนการค้าของผู้ค้าน้ำมันซึ่งคาดว่าในเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา ประเทศไทยสามารถจัดหาน้ำมันสำเร็จรูปและก๊าซแอลพีจีได้จากโรงกลั่นน้ำมันและ โรงแยกก๊าซธรรมชาติภายในประเทศเป็นปริมาณวันละ 119.7 ล้านลิตรหรือ 753,190 บาเรล/วัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 8 ปริมาณเพิ่มขึ้นไม่มากนักเนื่องจากโรงกลั่นและโรงแยกก๊าซฯ ได้ดำเนินการกลั่นครบทุกแห่งตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา น้ำมันที่ผลิตเพิ่มขึ้นมีเพียงน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว, ก๊าซแอลพีจี และน้ำมันเบนซินธรรมดา เพิ่มขึ้นร้อยละ 26, 23 และ 12 ตามลำดับ ในขณะนี้น้ำมันเตา, น้ำมันอากาศยาน เจ.พี.1 และน้ำมันเบนซินพิเศษ ลดลงร้อยละ 15, 5 และ 3 ตามลำดับ ส่วนการนำเข้าจากต่างประเทศมีปริมาณวันละ 4.3 ล้านลิตร หรือ 27,331 บาเรล/วัน ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 65 น้ำมันที่มีการนำเข้ามากได้แก่ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ววันละ 4.2 ล้านลิตร ส่วนน้ำมันเตาคาดว่าจะไม่มีการนำเข้า สำหรับการจัดหาน้ำมันดิบคาดว่ามีการนำเข้าจากต่างประเทศ วันละ 111.0 ล้านลิตร หรือ 698,102 บาเรล ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 11 และจากแหล่งภายในประเทศ 10.2 ล้านลิตร หรือ 64,056 บาเรลเพิ่มขึ้นร้อยละ 87 ในขณะที่มีการนำน้ำมันดิบเข้าขบวนการกลั่น วันละ 124.4 ล้านลิตร หรือ 782,570 บาเรล เพิ่มขึ้นร้อยละ 10
ทางด้านความต้องการใช้ (ไม่รวมก๊าซแอลพีจี ที่นำไปใช้ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี วันละ 416 เมตริกตัน) มีปริมาณวันละ 109.0 ล้านลิตร หรือ 685,583 บาเรล/วัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเพียงร้อยละ 1 ความต้องการใช้เพิ่มขึ้นน้อยมากตามภาวะเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงชะลอตัว โดยผู้ค้าน้ำมันคาดว่าน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว และน้ำมันเตา ซึ่งมีสัดส่วนการใช้กว่าร้อยละ 60 ของการใช้น้ำมันทั้งประเทศ และเป็นน้ำมันที่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจที่มีการใช้มากในภาคขนส่ง และอุตสาหกรรมจะมีปริมาณการใช้ลดลง โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วมีการใช้ วันละ 44.9 ล้านลิตรลดลงร้อยละ 3 และน้ำมันเตา วันละ 24.3 ล้านลิตร ลดลงร้อยละ 3 เช่นกัน น้ำมันที่มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นได้แก่ น้ำมันเบนซิน วันละ 20.9 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 ก๊าซแอลพีจี วันละ 4,681 เมตริกตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 น้ำมันอากาศยาน เจ.พี.1 วันละ 9.2 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 4
สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในเดือนตุลาคม 2540 ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 19-21 เหรียญสหรัฐ/บาเรล เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา 1-2 เหรียญสหรัฐ/บาเรล ทั้งนี้เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไม่สงบในตะวันออกกลาง หลังจากอิหร่านเข้าโจมตีที่มั่นกองกำลังกบฏทางตอนใต้ของอิรัก แต่อย่างไรก็ตามราคาไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากนักเนื่องจากได้มีแนวโน้มลดลงในช่วงปลายเดือนเมื่อสถานการณ์ดังกล่าวคลี่คลายประกอบกับตลาดยุโรปและตลาดสหรัฐอเมริกา มีน้ำมันดิบจากแอฟริกาตะวันตกเหลือค้างอยู่มาก ทางด้านราคาน้ำมันสำเร็จรูป มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ โดยน้ำมันเบนซินพิเศษราคาเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 25.9 เหรียญสหรัฐ/บาเรล เพิ่มขึ้น 1 เหรียญสหรัฐ/บาเรล น้ำมันเบนซินธรรมดา 24.3 เหรียญสหรัฐ/บาเรล เพิ่มขึ้น 2.2 เหรียญสหรัฐ/บาเรล และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว 23.9 เหรียญสหรัฐ/บาเรล เพิ่มขึ้น 0.7 เหรียญสหรัฐ/บาเรล ส่วนราคาขายปลีกภายในประเทศ ได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 ครั้ง (ไม่นับรวมการปรับราคาเนื่องจากการปรับอัตราภาษีสรรพสามิต เพิ่มขึ้นและลดลง 1 บาท/ลิตร เมื่อวันที่ 15 และ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา) โดยครั้งแรกปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.20 บาท/ลิตร เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2540 และเพิ่มขึ้นอีกครั้ง 0.25 บาท/ลิตร เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2540 รวมเพิ่มขึ้นทั้งหมด 0.45 บาท/ลิตร ทั้งนี้เป็นการปรับราคาเพิ่มขึ้นเนื่องจากค่าเงินบาทที่อ่อนตัวจากระดับเฉลี่ย 36 บาท/เหรียญสหรัฐ ในเดือนก่อนลงมาอยู่ในระดับเฉลี่ย 38 บาท/เหรียญสหรัฐ ประกอบกับราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ปรับตัวสูงขึ้นด้วย--จบ--