กรุงเทพ--10 ก.ค.--สปส.
ก.รส.ประกาศลดเงินสมทบกองทุนเงินทดแทน จาก 0.2-2.0% เป็น 0.2-1.0% ของค่าจ้าง ส่งผลให้นายจ้าง 20,946 ราย ใน 18 ประเภทกิจการ สามารถลดค่าใช้จ่ายได้กว่า 290 ล้านบาท
นายพูนสวัสดิ์ มูลศาสตรสาทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมแถลงว่า เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปัจจุบัน มีผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินของนายจ้าง ดังนั้น เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สำนักงานประกันสังคม จึงประกาศลดอัตราเงินสมทบของกองทุนทดแทนจากเดิมที่เคยเรียกเก็บในอัตรา 0.2-2.0% เป็น 0.2-1.0% ของค่าจ้าง โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม 2540 เป็นต้นไป
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานฯ กล่าวต่อไปว่า อัตราที่สมทบเรียกเก็บในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1. อัตราเงินสมทบหลักที่นายจ้างจ่ายเข้ากองทุนฯ ในอัตราที่แตกต่างกัน ตามความเสี่ยงของ กิจการ
2. อัตราเงินสมทบตามค่าประสบการณ์ ซึ่งจะมีการลด-เพิ่ม ตามจำนวนการประสบอันตรายที่เกิดขึ้นจริง
การปรับลดเงินสมทบครั้งนี้จะมีผลต่อกิจการที่จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนเงินทดแทนในอัตราที่เกินกว่า 1% ขึ้นไป ซึ่งมีอยู่ จำนวน 20,946 ราย จากกิจการ 18 ประเภท สามารถลดค่าใช้จ่ายของนายจ้างในการส่งเงินสมทบเข้ากองทุนฯ เป็นเงินกว่า 290 ล้านบาท
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการปรับลดอัตราเงินสมทบหลักแล้ว ยังมีการปรับลด-เพิ่มเงินสมทบอีกส่วนหนึ่งที่เรียกเก็บตามค่าประสบการณ์ โดยกิจการใดดูแลความปลอดภัยของลูกจ้างได้ดี มีอัตราการประสบอันตรายน้อยมาก อาจจะได้รับการลดเงินสมทบสูงถึง 80% ตรงกันข้ามหากกิจการขาดการดูแลเรื่องความปลอดภัยเป็นเหตุให้ประสบอันตรายสูง อาจต้องจ่ายเงินสมทบสูง ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นให้นายจ้างมีความกระตือรือร้นในการป้องกันอุบัติเหตุและเอาใจใส่ดูแลเรื่องความปลอดภัยมากขึ้นด้วย--จบ--