กรุงเทพ--19 ต.ค.--บมจ.ธนาคารมหานคร
ตามที่กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ได้มีแถลงการณ์ร่วมในเรื่องแผนฟื้นฟูระบบสถาบันการเงิน ในวันที่ 14 สิงหาคม 2541 โดยในส่วนที่เกี่ยวข้องกับธนาคารมหานคร จำกัด (มหาชน) ก็คือ ให้ธนาคารฯ ควบโอนกิจการกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) นั้น
นับตั้งแต่วันที่มีแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว ธนาคารมหานคร จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์เป็นปกติ และลูกค้าเงินฝาก ลูกค้าสินเชื่อ และลูกค้าบริการอื่น ๆ รวมทั้งเจ้าหนี้ของธนาคารฯ ก็ไม่ได้ตื่นตระหนกกับนโยบายการควบโอนกิจการแต่อย่างใด ทั้งยังได้ติดต่อและทำธุรกิจธนาคารพาณิชย์เป็นปกติกับธนาคารมหานคร จำกัด (มหาชน) ธนาคารฯ จึงขอถือโอกาสนี้ ขอบพระคุณท่านผู้มีอุปการคุณทุกท่าน
ขณะเดียวกัน ธนาคารมหานคร จำกัด (มหาชน) ได้ประสานงานกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) อย่างใกล้ชิด เพื่อตระเตรียมรายละเอียด และขั้นตอนการควบโอนกิจการ ซึ่งจะเป็นการโอนสินทรัพย์หนี้สิน และพนักงานทั้งหมดของธนาคารมหานคร จำกัด (มหาชน) ไปยังธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัทในเครือ ในการนี้ ธนาคารทั้ง 2 แห่ง จัดให้จะมีการลงนามในสัญญาการควบโอนกิจการดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อสัญญาดังกล่าวได้กำหนดให้วันที่ 1 พฤศจิกายน 2541 เป็นวันควบโอนกิจการในทางนิตินัย โดยที่พนักงานธนาคารมหานคร จำกัด (มหาชน) ทั้งหมด ที่ประสงค์จะโอนย้ายไปปฏิบัติงานที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือบริษัทในเครือ ก็จะกลายเป็นพนักงานธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือบริษัทในเครือในวันเดียวกัน ส่วนการโอนสินทรัพย์และหนี้สินในทางปฏิบัติ จะมีการทยอยโอนไป ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งภายหลังวันโอนกิจการ จึงจะที่เสร็จสมบูรณ์
ในส่วนของลูกค้าทุกประเภทของธนาคารมหานคร จำกัด (มหาชน) ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าเงินฝาก ลูกค้าสินเชื่อและลูกค้าบริการด้านอื่น ๆ รวมทั้งเจ้าหนี้ ยังสามารถติดต่อใช้บริการกับธนาคารฯ ณ สำนักงานใหญ่ หรือสาขาเดิมที่เคยติดต่อเป็นประจำตามปกติ ในนามของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หากจะมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่ให้บริการหรือรูปแบบการให้บริการธนาคารพาณิชย์ในอนาคต ธนาคารฯ จะได้เรียนใหผู้มีอุปการคุณทุกท่านได้ทราบต่อไป
เพื่อให้ลูกค้าเงินฝากและเจ้าหนี้มีความมั่นใจเช่นเดิม ธนาคารมหานคร จำกัด (มหาชน) ขอเรียนอีกครั้งว่าทางการโดยกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จะยังคุ้มครองและค้ำประกันผู้ฝากเงิน และเจ้าหนี้ของธนาคารมหานคร จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทั้งในช่วงก่อน หรือหลังวันที่ 13 ตุลาคม 2541 และวันที่ 1 พฤศจิกายน 2541 โดยที่ประชาชนผู้ฝากเงินยังสามารถฝากถอนเงินกับสำนักงาน และสาขาทั่วประเทศของธนาคารมหานคร จำกัด (มหาชน) เดิม ภายใต้เครือข่ายของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
ในส่วนของลูกค้าสินเชื่อหรือลูกค้าที่ใช้บริการอื่น ๆ เช่น แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ก็ยังคงได้รับบริการด้านสินเชื่อหรือบริการอื่นเช่นเดิม รวมทั้งยังคงสามารถชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยตามปกติเช่นเดิม ณ สำนักงาน และสาขาทั่วประเทศของธนาคารมหานคร จำกัด (มหาชน) ทั้งในช่วงก่อนหรือหลังวันที่ 13 ตุลาคม 2541 และวันที่ 1 พฤศจิกายน 2541 ภายใต้เครือข่ายของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
ในด้านพนักงานของธนาคารมหานคร จำกัด (มหาชน) แม้ว่าจะมีการโอนย้ายไปเป็นพนักงานธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือบริษัทในเครือก็ตาม ในขั้นแรก ส่วนใหญ่ก็ยังคงมาทำงานที่อาคารสำนักงานและสาขาทั่วประเทศที่ท่านเคยไปใช้บริการเป็นประจำอยู่แล้ว รวมทั้งยังคงดูแลลูกค้าเงินฝากหรือลูกค้าสินเชื่อที่เป็นลูกค้าประจำเช่นเดิม
ภายหลังวันที่ 1 พฤศจิกายน 2541 จนถึงสิ้นปี 2542 ท่านผู้มีอุปการคุณและประชาชนทั่วไป อาจจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ค่อยเป็นค่อยไป เช่น การเปลี่ยนป้ายชื่อธนาคารฯ เป็นธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) การเปลี่ยนเครื่องแบบพนักงาน การตกแต่งสถานที่ทำงานใหม่ และระบบวิธีการให้บริการเงินฝาก สินเชื่อ และบริการอื่น ตามแบบธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) การเปลี่ยนแบบสมุดเงินฝาก เป็นต้น การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ธนาคารฯ ขอให้ท่านผู้มีอุปการคุณมีความมั่นใจว่า จะไม่กระทบกระเทือนต่อบริการที่ท่านจะได้รับแม้แต่น้อย ในทางตรงกันข้าม ธนาคารฯ เชื่อมั่นว่า ท่านจะได้รับบริการที่ดีขึ้น และสามารถใช้บริการที่มีเครือข่ายที่กว้างขวางขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ อันเนื่องมาจากการที่ธนาคารฯ กลายเป็นส่วนหนึ่งของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว หากมีความจำเป็นต้องรบกวนท่านในลักษณะของการตอบหนังสือหรือในลักษณะอื่นใด ธนาคารฯ จะได้เรียนให้ท่านทราบเป็นหนังสือต่อไป
อนึ่ง ในกรณีที่ท่านผู้มีอุปการคุณยังมีคำถามหรือข้อสงสัยที่ต้องการความกระจ่าง ก็ขอให้ติดต่อกับพนักงานที่ดูแลท่านตามหมายเลขโทรศัพท์หรือโทรสารเดิมที่ท่านเคยติดต่ออยู่แล้ว หรืออาจจะโทรศัพท์ไปที่ส่วนประชาสัมพันธ์ ธนาคารมหานคร จำกัด (มหาชน) หมายเลข 6216500, 2230501 ต่อ 326, 578, 579 หรือ 761 หรือสายตรง 223-7769 และ 223-8750--จบ--
- ๒๔ ธ.ค. EXIM BANK คว้ารางวัล Bank of The Year 2024 สุดยอดธนาคารแห่งปี 2567
- ๒๔ ธ.ค. ธอส. จัดผลิตภัณฑ์ทางการเงินส่งท้ายปี ร่วมงาน Thailand Smart Money กรุงเทพ ครั้งที่ 15 ชูสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำเริ่มต้นเพียง 0.71% ต่อปี เท่านั้น!
- ๒๔ ธ.ค. ไทยพาณิชย์สนับสนุน โครงการ "คุณสู้ เราช่วย" ช่วยลูกค้ากลุ่มเปราะบาง สร้างวินัย แก้หนี้ครัวเรือนยั่งยืน