กรุงเทพ--2 ก.ย.--กระทรวงสาธารณสุข
กระทรวงสาธารณสุข ให้ความสำคัญกับงบผู้มีรายได้น้อย ที่ยอมให้ตัดเพราะคาดว่าสามารถจะของงบกลางสนับสนุนเพิ่มได้ หากไม่พอใช้
นายแพทย์จำรูญ มีขนอน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ เกี่ยวกับการปรับลดงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข โดยอ้างว่า กระทรวงสาธารณสุขไม่ให้ความสำคัญกับงบสวัสดิการด้านรักษาพยาบาลสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อย (สปร.) ยอมให้ตัดงบประมาณส่วนนี้ประมาณ 1,700 ล้านบาท แต่ไม่ตัดงบก่อสร้าง นอกจากนี้ จะพยายามแปลงงบ สปร.ให้เป็นงบหมวดอุดหนุน นั้น กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อมูลตามข่าวยังคลาดเคลื่อน จึงขอชี้แจงให้ทราบดังต่อไปนี้ กรณีที่ต้องตัดงบประมาณนั้น เนื่องจากในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน รัฐบาลมีงบประมาณจำกัด กระทรวงสาธารณสุขต้องตัดให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการจัดลำดับความสำคัญ ของโครงการต่าง ๆ ทางด้านสาธารณสุข และเหตุที่ยอมให้ตัดงบ สปร.ตามความจำเป็นในเหตุการณ์เฉพาะหน้า มิได้หมายความว่ารัฐบาลไม่เห็นความสำคัญของเรื่องนี้ แต่ตรงกันข้ามรัฐบาลเห็นเป็นเรื่องสำคัญมากจึงได้จัดงบกลางเพื่อการนี้ไว้แล้วด้วย หากต่อไปภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น ในขณะที่งบ สปร.ขาดแคลนกระทรวงสาธารณสุขจะทำเรื่องของงบกลางมาสนับสนุนต่อไป อนึ่ง การที่กระทรวงสาธารณสุขได้ขอตั้งงบประมาณนี้เป็นงบอุดหนุน มาตั้งแต่เริ่มโครงการ ในปี พ.ศ.2518 จนถึงปัจจุบัน มิได้พยายามเปลี่ยนแปลงเป็นหมวดอุดหนุนในปีนี้แต่อย่างใดเลย สำหรับงบอุดหนุนนี้ต่างจากหมวดอื่น ๆ คือ ไม่ต้องอิงระเบียบการจัดซึ้อจัดจ้างของสำนักนายกรัฐมนตรี แต่จะต้องตรวจสอบจากผลงานเป็นสำคัญ เพื่อประสิทธิภาพในการเบิกจ่ายเงิน
นายแพทย์จำรูญ กล่าวต่อไปว่า สำหรับ งบประมาณก่อสร้าง ที่กระทรวงสาธารณสุขปรับลดให้น้อยที่สุด โดยเฉพาะการก่อสร้างสถานีอนามัย เนื่องจากสถานีอนามัยเป็นหน่วยบริการ ที่ประชาชนในหมู่บ้านสามารถเข้าถึงบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง จำเป็นจะต้องพัฒนาให้เป็นที่พึ่งได้ของประชาชน อีกทั้งอุปกรณ์การแพทย์เพื่อสนับสนุนบริการรักษาพยาบาลแก่ประชาชน เป็นการอำนวยความสะดวกในการให้บริการทำให้ประชาชนได้รับการที่มีคุณภาพ ส่วนเรื่องการก่อสร้างบ้านพักแพทย์-พยาบาล เป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงาน ที่ต้องให้บริการประชาชนในระดับอำเภอ อันจะเป็นการลดปัญหาการลาออกของแพทย์-พยาบาล--จบ--
- ๒๓ พ.ย. กรมอนามัย ย้ำ ท้องถิ่นเร่งปรับปรุงระบบประปาหมู่บ้าน หลังพบการปนเปื้อนแบคทีเรีย
- ๒๓ พ.ย. กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พัฒนาคุณภาพการตรวจน้ำตาลสะสมในเลือด มาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เพิ่มความแม่นยำในการรักษาเบาหวาน
- ๒๓ พ.ย. กระทรวงสาธารณสุข โดย กรมอนามัย ผนึกกำลัง 7 องค์กร ร่วมแถลงข่าวความร่วมมือการจัดประชุมสุขภาพช่องปากโลก วันที่ 26-29 พฤศจิกายน 2567